น้ำท่วมส่งผลให้ราคาผักในอุบลฯ แพง เหตุพื้นที่เพาะปลูกเสียหายต้องสั่งจากต่างถิ่น

อุบลราชธานี - แม่น้ำมูลยังเพิ่มขึ้น เริ่มไหลท่วมชุมชนในเทศบาลนครอุบลราชธานี หลายชุมชนต้องใช้กระสอบทรายวางกั้นน้ำ ขณะที่ราคาผักในตลาดปรับตัวสูงเพราะพื้นที่เพาะปลูกเสียหาย ต้องสั่งจากภาคกลางมาขาย

วันนี้ (29 ก.ย.) ระดับน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี มีระดับน้ำเพิ่มจากเมื่อวานอีก 16 เซนติเมตร โดยสูง 8.87 เมตร และมีน้ำล้นตลิ่งสูง 1.87 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำที่มากขึ้นไหลท่วมชุมชนฝั่งอำเภอเมืองอุบลราชธานีที่ตั้งอยู่ตามลำน้ำมูลน้อย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล ประชาชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานีต้องนำกระสอบทรายมาปิดกั้นบริเวณประตูทางเข้าหน้าบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลท่วม

ส่วนบ้านที่ตั้งอยู่ในที่ต่ำเริ่มมีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 1,300 หลังคาเรือนแล้ว รวมทั้งที่สนามไดรฟ์กอล์ฟที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำก็ใช้รถแบ็กโฮนำดินมาเสริมพนังกั้นน้ำ ที่ทางสนามสร้างกันน้ำไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้ามาท่วมด้วย

ปัจจุบันทั้งสองฝั่งแม่น้ำมูลมีชุมชนถูกน้ำท่วมทั้งในฝั่งอำเภอวารินชำราบ และอำเภอเมืองอุบลราชธานีรวม 26 ชุมชน อพยพแล้ว 914 ครอบครัว แบ่งเป็นชุมชนในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบจำนวน 14 ชุมชน อพยพแล้ว 645 ครอบครัว เทศบาลนครอุบลราชธานีมี 12 ชุมชน อพยพแล้ว 269 ครอบครัว และมีแนวโน้มจะอพยพเพิ่มขึ้นตามระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับที่ตลาดค้าส่งผักเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผักมีราคาแพงขึ้น 30-50% และผักบางชนิดราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว โดยผู้ค้าผักระบุว่าราคาผักปรับตัวขึ้นตั้งแต่เกิดน้ำท่วมเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา โดยผักกาดขาว คะน้า มะเขือเทศ ปรับตัวจากถุงบรรจุ 5 กิโลกรัม ราคา 70-80 บาท เป็น 170-190 บาท ส่วนผักบุ้ง ต้นหอมขนาดบรรจุเดียวกันจาก 70-80 บาท เป็น 120-140 บาท

สาเหตุเพราะพื้นที่ปลูกเสียหายจากน้ำท่วมต้องสั่งผักมาจากภาคกลาง ทำให้มีค่าขนส่งเพิ่มขึ้น และแนวโน้มราคายังคงปรับตัวขึ้นจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะดีขึ้น

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายจากน้ำท่วมกว่า 281,000 ไร่ ใน 23 อำเภอจาก 25 อำเภอ ประชาชนต้องอพยพ 5 อำเภอ รวม 2,632 ครอบครัว จำนวน 9,620 คน