น้ำมูลขึ้นไม่หยุด ชาวอุบลฯ ขาดแคลนที่พักต้องสร้างกันเอง

อุบลราชธานี - ชาวชุมชนที่ประสบอุทกภัยในเทศบาลเมืองวารินชำราบประสบปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัยเนื่องจากเต็นท์ที่พักราชการจัดมาไม่เพียงพอ ต้องระดมกำลังกันสร้างเอง ขณะอีกหลายชุมชนที่น้ำยังท่วมไม่สูง แต่ตัดสินใจอพยพก่อนตามคำเตือนกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า 28-29 ก.ย.จะมีพายุลูกใหม่ทำฝนตกในพื้นที่อีก

วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำมูลยังเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำไหลท่วมชุมชนในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบเป็นวงกว้างรวม 11 ชุมชน ต้องอพยพหนีน้ำท่วมขึ้นมาอยู่ในศูนย์อพยพชั่วคราวหน้าสำนักงานที่ดินอำเภอ และบางชุมชนกระจายอยู่ตามริมถนนสถิตนิมานการ ถนนเชื่อมระหว่างเทศบาลเมืองวารินชำราบ กับเทศบาลนครอุบลราชธานี และผู้อพยพต้องสร้างที่พักชั่วคราวกันเอง เนื่องจากเต็นท์แบบมีพื้นของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีเพียง 3 หลัง สามารถพักได้หลังละ 3 ครอบครัว รวมทั้งเต็นท์ที่เทศบาลเมืองวารินชำราบนำมาให้อีก 20 หลัง จึงไม่พอต่อจำนวนผู้อพยพที่มีมากกว่า 200 ครอบครัว ผู้ประสบภัยต้องประสานขอไม้ยูคาลิปตัสและสังกะสีมุงหลังคามาสร้างที่อยู่กันเอง

ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ นำรถบรรทุกช่วยขนย้ายทรัพย์สินของประชาชนในชุมชนบ้านช่างหม้อ ซึ่งชาวบ้านกว่า 80% ประกอบอาชีพปั้นเตาดินเผา และมีเตากว่าหมื่นใบที่ชาวบ้านได้ขึ้นรูปรอเผาและหุ้มสังกะสี แต่แม่น้ำมูลมีระดับน้ำสูงขึ้น จึงตัดสินใจย้ายเตาทั้งหมดออกมาก่อนได้รับความเสียหาย

สำหรับระดับแม่น้ำมูลที่สะพานเสรีประชาธิปไตยเช้านี้สูงจากเมื่อวานที่ระดับ 8.00 เมตร เป็น 8.28 เมตร โดยมีน้ำเพิ่มขึ้น 28 เซนติเมตร และสูงกว่าตลิ่ง 1.28 เมตร ส่วนอัตราการไหลผ่านมีความเร็ว 3,264 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สูงกว่าระดับน้ำที่รองรับได้เกือบ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

แต่ยังมีอัตราการไหลผ่านน้อยกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ซึ่งน้ำมีความเร็วสูงกว่า 4,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ชุมชนริมแม่น้ำมูลในฝั่งเทศบาลเมืองวารินชำราบจำนวน 11 ชุมชนจมน้ำ ส่วนเทศบาลนครอุบลราชธานีมีชุมชนถูกน้ำท่วมแล้ว 3 ชุมชน และมีผู้อพยพทั้งจังหวัดรวม 1,161 ครอบครัว