ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านท่าถ่าน ใกล้แนวลำคลองท่าลาด โอดหมู่บ้านอยู่ในพื้นที่จุดอับไร้คนสัญจรผ่าน ขาดการเหลียวแลจากสังคมภายนอก จากทุกหน่วยงาน ทั้งที่คนในครอบครัวส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กติดอยู่กลางน้ำรวมถึง 9 คน ต้องพากันนอนแช่อยู่ในบ้านกลางน้ำนาน 3 วัน ขณะบ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เผยขาดแคลนเรือในการใช้เดินทางเข้าออกสู่โลกภายนอก
วันนี้ (25 ก.ย.) เวลา 15.00 น. นายเย็น จางสี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.1 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำล้นคลองท่าลาด และไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านในขณะที่กำลังเฝ้าคอยดูแลหลานๆ ซึ่งยังเป็นเด็กเล็กๆ และส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยเรียนรวม 5 คน บนบ้านไม้แบบยกพื้นสูงเก่าๆ สภาพที่ใกล้จะผุพังว่า ที่ผ่านมา ตลอด 3 วันหลังจากมีน้ำป่าไหลเข้ามาท่วมบ้านได้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากไม่มีเรือในการใช้สัญจรที่จะข้ามไปหาซื้อเสบียง จึงต้องกินอยู่กันอย่างประหยัดตามสภาพที่มีอยู่ พร้อมกับหลานๆ อีก 5 คน
โดยการเข้าออกจากบ้านในแต่ละครั้งนั้นยังคงต้องอาศัยไหว้วานขอใช้เรือพายของเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่สะดวกมากนักในการเดินทาง ทั้งการจะเข้าออกไปทำงานของคนในบ้านซึ่งเป็นพ่อแม่ของเด็กๆ และการเดินทางที่จะออกไปหาซื้อข้าวของมาจัดเตรียมไว้ สำหรับเป็นเสบียงอย่างพอเพียง เนื่องจากในบ้านมีคนอยู่ด้วยกันมากรวมถึง 9 คน
ขณะเดียวกัน ตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือ ซึ่งอาจเป็นเพราะหมู่บ้านอยู่ในจุดอับที่ผู้คนจากภายนอกมองไม่เห็น และเข้ามาไม่ถึง โดยส่วนใหญ่สังคมภายนอกจะใช้การสัญจรกันแต่บนเส้นทางสายหลัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่สูงกว่าหมู่บ้านมาก จึงทำให้ไม่มีใครมองเห็น
ขณะที่ตนเองก็ต้องคอยเฝ้าอยู่แต่บ้านเพื่อคอยเฝ้าดูแลระวังหลานๆ จะจมน้ำ โดยที่โรงเรียนได้สั่งหยุดเรียนจากปัญหาน้ำท่วมหมดแล้ว สภาพปัจจุบันจึงยังคงได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ และอยากได้รับการช่วยเหลือจากสังคมภายนอกด้วยการจัดหาเรือพายมาไว้ให้ใช้ในการสัญจรออกไปบ้าง