กาญจนบุรี - ผบก.ตร.กาญจน์ สั่งไล่ล่าไอ้ขี้ยาแก๊งฉกกระเป๋า นทท.ต่างชาติ 2 สาวชาวฝรั่งเศส ขณะปั่นจักรยานเที่ยว ขณะปิดล้อมบ้านพักริมน้ำแหล่งมั่วสุมกระโดดน้ำหนีแต่ไม่รอด สารภาพหาเงินเสพยาบ้า และเที่ยวเตร่
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (19 ก.ย.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วันชัย อ่อนละออ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักริมแม่น้ำแควใหญ่ ไม่มีเลขที่ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากสืบทราบว่า นายทิติสรณ์ หรือบอย สุขสมบัติ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/5 หมู่ 3 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาชิงกระเป๋านักท่องเที่ยวสาวชาวฝรั่งเศสหลบอยู่ภายใน โดยได้ทรัพย์สินเป็นเงินสกุลยูโรไปเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ได้กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้ โดยมีเรือยนต์คอยสกัดการหลบหนีทางน้ำด้วย ขณะเจ้าหน้าที่กำลังปิดล้อม ปรากฏว่า ผู้ต้องหาไหวตัวทัน และได้กระโดดลงไปในแม่น้ำแควใหญ่เพื่อว่ายน้ำหลบหนีการจับกุม ซึ่ง 1 ในนั้น มี น.ส.ปาย อายุ 17 ปี ภรรยาของนายทิติสรณ์ ได้กระโดดน้ำหลบหนีไปด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นจึงได้กระโดดน้ำเพื่อติดตามจับกุมซึ่งปรากฏว่า ทั้ง 2 ได้หลบเข้าไปอยู่ในน้ำใต้แพล่องที่อยู่ติดกัน หลังจากเจ้าหน้าที่ทราบว่าทั้ง 2 หลบอยู่ใต้แพ เจ้าหน้าที่จึงได้พูดกล่อมให้ทั้ง 2 ยอมมอบตัว พร้อมทั้งขับเรือยนต์อยู่โดยรอบเพื่อเป็นการกดดัน สุดท้ายใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายจึงยอมมอบตัว
หลังจากผู้ต้องหามอบตัว เจ้าหน้าที่ได้นำนักท่องเที่ยวสาวชาวฝรั่ง 2 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียหายมาชี้ตัว เนื่องจากขณะก่อเหตุผู้เสียหายจำตัว และใบหน้าผู้ก่อเหตุได้เป็นอย่างดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ต้องหาว่าทรัพย์ของผู้เสียหายทั้งหมดนำไปเก็บไว้ที่ไหน โดยนายทิติสรณ์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เงินที่ได้มาเป็นเงินสกุลยูโรทั้งหมด หลังจากก่อเหตุเมื่อวานนี้ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่มาตำรวจไปเช่าห้องพักชื่อมอร์เดิร์นอินทร์บังกาโล ห้อง 104 ตั้งอยู่ริมถนนพัฒนากาญจน์
จากนั้นได้โทร.ให้ น.ส.ปาย แฟนสาวมาพบ พร้อมทั้งให้นำเสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเปิดกระเป๋าดูทรัพย์สินที่ได้มา ปรากฏว่า มีแต่เงินสดสกุลยูโร ประมาณ 4,000 ยูโร ส่วนพาสปอร์ตเดินทาง และวีซ่า อย่างละ 2 ฉบับ ได้ทิ้งในถังขยะภายในห้องพัก จนกระทั่งช่วงสายของวันนี้ (19 ก.ย.) จึงได้โทรศัพท์ให้พี่ชายคือ นายชาตรี อายุ 24 ปี มาพบที่ห้องพัก เพื่อให้นำเงินยูโรจำนวนหนึ่งไปแลกเป็นเงินสดได้มา 30,000 บาท และให้แม่นำเงินไปซื้อรถจักรยานยนต์ 1 คัน เป็นเงิน 17,000 บาท ที่เหลือตนเป็นคนเก็บไว้เพื่อซื้อยาบ้ามาเสพ หลังจากนั้นจึงเดินทางมาพบเพื่อนๆ ที่บริเวณบ้านพักริมน้ำ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด โดยกระจายกำลังกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังไปประชาสัมพันธ์ตามธนาคารในพื้นที่ทุกแห่ง รวมทั้งสถานที่บริการรับแรกเงินสกุลต่างๆ ด้วย และในที่สุดเวลาประมาณ 13.00 น. ก็ได้รับแจ้งจากสถานบริการรับแลกเงินแห่งหนึ่งว่า มีชายวัยรุ่นเพิ่งนำเงินสกุลยูโรมาแลก จำนวน 300 ยูโร และออกไปได้ไม่นาน หลังทราบเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งปรากฏว่า วัยรุ่นคนดังกล่าวเป็นพี่ชายของนายทิติสรณ์ หรือบอย ผู้ก่อเหตุ ซึ่งตรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ น.ส.อีวองซีลิน ลองเบิร์ท และ น.ส.ชาร์ลอตเต้ คลาร์ท เป็นนักท่องเที่ยวสาวชาวฝรั่งเศส โดยนักท่องเที่ยว 1 ใน 2 มีกำหนดเดินทางกลับประเทศฝรั่งเศส ในวันพรุ่งนี้ ส่วนอีก 1 ราย จะอยู่ท่องเที่ยวในประเทศไทยอีก 1 อาทิตย์ ในส่วนเงินสดของผู้เสียหายที่ยังไม่ได้คืนเจ้าหน้าที่จะสอบสวนผู้ต้องหาว่านำไปเก็บ หรือฝากไว้กับใคร หากทราบจะติดตามนำมาคืนผู้เสียหายให้ได้ทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ว่า ลงมือก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ และเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาแล้วหลายครั้ง เดินเข้าออกคุกเป็นว่าเล่น
ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.วานนี้ 18 ก.ย.ขณะที่ น.ส.อีวองซีลิน ลองเบิร์ท และ น.ส.ชาร์ลอตเต้ คลาร์ท นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสกำลังปั่นรถจักรยานท่องเที่ยวไปตามถนนนานาชาติ โดยทั้ง 2 ได้วางกระเป๋าเอาไว้ตะกร้าหน้ารถ เมื่อมาถึงหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาคือ นายทิติสรณ์ หรือบอย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มา จากนั้นได้ฉกเอากระเป๋าที่วางอยู่หน้ารถไป
โดยผู้เสียหายได้ปั่นรถจักรยานติดตามแต่ไม่ทัน ซึ่งมีพยานซึ่งเป็นคนไทยหลายคนเห็นเหตุการณ์ สามารถบอกลักษณะรูปร่างของคนร้ายได้ และตนได้กระจายกำลังกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง และร้านค้าต่างๆ ที่มีกล้องวงจรปิด และก็พบภาพของคนร้าย จึงให้พยานที่เห็นเหตุการณ์มาชี้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งพยานยืนยันว่าบุคคลที่เห็นในภาพเป็นคนคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุ
หลังจากที่พยานยืนยัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งในที่สุดก็ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยก่อเหตุทำนองเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาเสพยาบ้ามาแล้วเช่นกัน
และหลังจากเกิดเหตุ ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะขอเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อติดต่อกับสถานกงสุล แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ และเชื่อว่าจะนำพาสปอร์ต รวมทั้งวีซ่ามาคืนได้ จึงขอให้ผู้เสียหายรอ และในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา และนำเอกสารการเดินทางมาคืนผู้เสียหายได้ สร้างความสบายใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายเป็นอย่างมาก และรับปากว่าจะกลับมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีอีกอย่างแน่นอน
ส่วนทรัพย์สินเป็นเงินสดสกุลโยรู เจ้าหน้าที่จะพยายามสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อให้สารภาพว่านำทรัพย์สินที่เหลือของผู้เสียหายไปเก็บไว้ที่ไหน หากได้มาจะประสานไปยังกงสุล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อมอบทรัพย์สินทั้งหมดคืนผู้เสียหายต่อไป