ศรีสะเกษ - “ฝายป่าอ้อ” ชายแดนไทย-เขมร แตกน้ำทะลักท่วมบ้านเรือน ไร่นา ประชาชน อ.ขุนหาญ 5 ตำบล เป็นบริเวณกว้างกว่า 100 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรจมใต้น้ำกว่า 1 หมื่นไร่ ถนนหลายสายตามหมู่บ้านต่าง ๆ และ ถนนสายหลัก ถูกน้ำท่วมตัดขาด
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณฝายป่าอ้อ บ้านตานวน ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ใกล้ชายแดนไทย - กัมพูชา ปรากฏว่าจากการที่ฝนตกหนัก ต่อเนื่องมานาน 2 วัน ทำให้ฝายป่าอ้อซึ่งเป็นฝายดินขนาดใหญ่ที่เก็บกักน้ำป่าที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก รองรับปริมาณน้ำจำนวนมากไว้ไม่ไหว ทำให้สันฝายแตกเป็นช่องขนาดใหญ่ ความกว้างประมาณ 40 เมตร และน้ำป่าที่เก็บกักเอาไว้จำนวนมากไหลทะลักเข้าไปท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านในพื้นที่ 5 ตำบล ของ อ.ขุนหาญ ประกอบด้วย ต.ห้วยจันทร์ ต.กันทรอม ต.สิ ต.โนนสูง และ ต.กระหวัน
โดยบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างประมาณ 100 หมู่บ้าน ไร่นาและพื้นที่ทางการเกษตรจมใต้น้ำประมาณ 10,000 ไร่ ถนนหลายสายตามหมู่บ้านต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมตัดขาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณถนนสายบ้านกันทรอม - บ้านห้วยจันทร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณฝายป่าอ้อที่แตก ถนนถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร และน้ำไหลเชี่ยวกราก รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไป - มาได้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย อ.ขุนหาญ และเจ้าหน้าที่ อบต.กันทรอม ต้องช่วยกันปิดกั้นการจราจรเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
นายคมสันต์ เลิศศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกันทรอม กล่าวว่า จากการที่ฝนตกอย่างหนักได้ทำให้ฝายป่าอ้อได้เริ่มร้าวเป็นช่องกว้างตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา และฝายได้แตกเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.ของวันนี้
ทำให้น้ำป่าไหลทะลักลงมาอย่างรวดเร็วมาก และน้ำได้ท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านในเขต 5 ตำบลของ อ.ขุนหาญ ซึ่งทางราชการกำลังเร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมอย่างเต็มที่ และระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากว่าฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขอให้ประชาชนระวังดูแลลูกหลานและเฝ้ารักษาทรัพย์สิน บ้านเรือน สัตว์เลี้ยง เพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากการเกิดน้ำท่วมฉับพลันในครั้งนี้