พระนครศรีอยุธยา - นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมวางมาตรการเร่งด่วนป้องกันเกาะเมืองกรุงเก่าหวั่นโดนน้ำท่วม ผู้ว่าฯ อยุธยา สั่งกำชับทุกอำเภอ และท้องถิ่นนำแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมมาปรับใช้
วันนี้ (19 ก.ย.) ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตรการเร่งด่วนป้องกันเกาะเมืองกรุงเก่า เนื้อที่ 18 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่มีแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่ล้ำลพบุรี ไหลล้อมรอบ และมีปริมาณน้ำเพิ่มสูง
โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา เอ่อท่วมริมฝั่งในอำเภอบางบาล ส่วนเกาะเมืองแม้ระดับน้ำยังไม่ล้นตลิ่ง แต่อยู่ในระยะเสี่ยง ซึ่งแนวทางป้องกันน้ำท่วมเฉพาะหน้า คือ จะปิดจุดบริเวณปากคลองตรงหัวรอ และหัวแหลม พร้อมเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมเดิมที่ปากคลองต่างๆ หากระดับน้ำมากขึ้นกว่านี้จะทำแนวคันดินเสริมบนถนนอู่ทองรอบเกาะเมือง ระยะทาง 13 กิโลเมตร ให้สูงอีกกว่า 2 เมตร สำหรับแนวทางนี้เคยป้องกันน้ำท่วมเกาะเมืองได้ทุกปี ยกเว้นปี 2538 และปี 2554 ระดับน้ำมาสูงกว่าแนวป้องกัน
ส่วน อ.บางบาล ชาวบ้านตำบลบางหลวง และตำบลบางหัก ยังต้องใช้เรือสัญจร เนื่องจากน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ขณะที่โรงเรียนประชากรรังสฤษฏ์ หมู่ 2 ต.บางหลวง อยู่ติดคลองโผงเผง เชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย น้ำเอ่อท่วมสนามประมาณ 50 เซนติเมตร รวมถึงชั้นล่างของอาคารเรียนหลังเก่า 2 หลัง เป็นห้องครัว และห้องเรียนอีก 4 ห้อง ซึ่งนักเรียนสามารถไปเรียนที่อาคารหลังใหม่ได้ เนื่องจากเมื่อปี 2554 เกิดน้ำท่วมหนัก รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณมาสร้างอาคารหลังใหม่
ด้านนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้ให้ทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมมาปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการอ่านน้ำให้ออก ดูน้ำให้เป็น กล่าวคือ อ่านวิเคราะห์ค่าน้ำถูกต้อง ประเมินสถานการณ์แม่นยำ ทราบทิศทางการไหลของน้ำ กำหนดจุดน้ำท่วมก่อนหนัก หรือหนักเบาได้ ที่สำคัญต้องมีระบบการแจ้งเตือนชาวบ้านล่วงหน้า 3-4 วัน รวมถึงสร้างเครือข่ายที่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือราชการในช่วงภาวะน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมสรุปสถานการณ์ ปัญหาอุปสรรค แนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนในเย็นวันนี้ที่ศาลากลางจังหวัด
วันนี้ (19 ก.ย.) ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตรการเร่งด่วนป้องกันเกาะเมืองกรุงเก่า เนื้อที่ 18 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่มีแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่ล้ำลพบุรี ไหลล้อมรอบ และมีปริมาณน้ำเพิ่มสูง
โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา เอ่อท่วมริมฝั่งในอำเภอบางบาล ส่วนเกาะเมืองแม้ระดับน้ำยังไม่ล้นตลิ่ง แต่อยู่ในระยะเสี่ยง ซึ่งแนวทางป้องกันน้ำท่วมเฉพาะหน้า คือ จะปิดจุดบริเวณปากคลองตรงหัวรอ และหัวแหลม พร้อมเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมเดิมที่ปากคลองต่างๆ หากระดับน้ำมากขึ้นกว่านี้จะทำแนวคันดินเสริมบนถนนอู่ทองรอบเกาะเมือง ระยะทาง 13 กิโลเมตร ให้สูงอีกกว่า 2 เมตร สำหรับแนวทางนี้เคยป้องกันน้ำท่วมเกาะเมืองได้ทุกปี ยกเว้นปี 2538 และปี 2554 ระดับน้ำมาสูงกว่าแนวป้องกัน
ส่วน อ.บางบาล ชาวบ้านตำบลบางหลวง และตำบลบางหัก ยังต้องใช้เรือสัญจร เนื่องจากน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ขณะที่โรงเรียนประชากรรังสฤษฏ์ หมู่ 2 ต.บางหลวง อยู่ติดคลองโผงเผง เชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย น้ำเอ่อท่วมสนามประมาณ 50 เซนติเมตร รวมถึงชั้นล่างของอาคารเรียนหลังเก่า 2 หลัง เป็นห้องครัว และห้องเรียนอีก 4 ห้อง ซึ่งนักเรียนสามารถไปเรียนที่อาคารหลังใหม่ได้ เนื่องจากเมื่อปี 2554 เกิดน้ำท่วมหนัก รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณมาสร้างอาคารหลังใหม่
ด้านนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้ให้ทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำแผนเผชิญเหตุน้ำท่วมมาปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการอ่านน้ำให้ออก ดูน้ำให้เป็น กล่าวคือ อ่านวิเคราะห์ค่าน้ำถูกต้อง ประเมินสถานการณ์แม่นยำ ทราบทิศทางการไหลของน้ำ กำหนดจุดน้ำท่วมก่อนหนัก หรือหนักเบาได้ ที่สำคัญต้องมีระบบการแจ้งเตือนชาวบ้านล่วงหน้า 3-4 วัน รวมถึงสร้างเครือข่ายที่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือราชการในช่วงภาวะน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมสรุปสถานการณ์ ปัญหาอุปสรรค แนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนในเย็นวันนี้ที่ศาลากลางจังหวัด