พิจิตร - เผยประวัติ “เสี่ยหนุ่ม-มุนินทร์ จันทรา” เสี่ยเจ้าของโรงสีฉาว ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงชาวนา-ยักยอกข้าว อ.ต.ก.รวม 12,000 ตัน เคยต้องคดีฉ้อโกงข้าวชาวนาพิจิตรในนาม “โรงสีก้องเกียรติ” มาแล้วตั้งแต่ปี 49 แต่ยังเข้าโครงการรับจำนำข้าวนาปี 55/56 ได้อีก
รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตรแจ้งว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวนายมุนินทร์ จันทรา หรือเสี่ยหนุ่ม เจ้าของตัวจริงบริษัทโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด เถ้าแก่โรงสีที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงชาวนา และยักยอกข้าว อ.ต.ก.พิจิตร ในโครงการจำนำข้าวนาปี 55/56 รวม 12,000 ตัน และนำตัวฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดพิจิตร เมื่อเย็นวานนี้ (17 ก.ย.)
จากการตรวจสอบประวัติของศาลจังหวัดพิจิตรพบว่า นายมุนินทร์ จันทรา เคยต้องคดี ฉ้อโกงข้าวชาวนาจังหวัดพิจิตรในนามโรงสีก้องเกียรติ เมื่อปี พ.ศ.2549 และไม่ยอมมารับฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดพิจิตร และยังหลบหนีศาล จนกระทั่งมาเปลี่ยนชื่อจากโรงสีก้องเกียรติเป็นโรงสีแอล-โกลด์เมนูแฟคเจอร์ และถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงข้าวชาวนาซ้ำอีก โดยศาลจังหวัดพิจิตร จึงสั่งอายัดคดีผู้ต้องหาเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดข้อสงสัยกันว่าเหตุใดผู้ต้องหารายนี้จึงสามารถกลับมาเข้าโครงการรับจำนำ และก่อคดีซ้ำได้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการข้าวของจังหวัดพิจิตรและ กนช.กำลังถูกมองว่าปล่อยปละละเลย หรือรู้เห็นเป็นใจให้เกิดขบวนการโกงชาวนา และโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าวด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ ก่อนที่นายมุนินทร์ จันทรา หรือเสี่ยหนุ่ม เจ้าของตัวจริงบริษัทโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด เถ้าแก่โรงสีที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงชาวนา และยักยอกข้าว อ.ต.ก. รวม 12,000 ตัน ที่ถูกตำรวจตามจับได้ที่อพาร์ตเมนต์หรู เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ก่อนที่จะส่งตัวฝากขังที่เรือนจำพิจิตรเมื่อเย็นวันที่ 17 ก.ย. 56 ที่ผ่านมานั้น ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในจังหวัดพิจิตรเกี่ยวกับขบวนการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลไว้ว่า เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของการรับจำนำข้าว
เขาย้ำว่า หัวใจของโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาล คือได้ออกใบประทวนแล้วจึงจะเกิดรายได้จากคำสั่งสีแปร แต่ที่ผ่านมาโรงสีของเขาถูกเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก.กลั่นแกล้ง หน่วงเหนี่ยวเวลาการออกใบประทวนไว้นานถึง 4 เดือน ไม่ออกใบประทวนตามหลักเกณฑ์ จนทำให้เขาออกใบประทวนให้ชาวนาไม่ได้ นำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดี
คลิกเพื่อชมคลิป