หนองคาย - เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่หนองคาย ยิ้มรับราคาไข่ แต่ขายหน้าฟาร์มไม่เกินที่รัฐกำหนด 4 บาท ระบุไก่ออกไข่ตามปกติ แต่ช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาโรคระบาดทำให้แม่พันธุ์ลดจำนวน ขณะที่อาหารไก่ปรับลดราคาลง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น แนะรัฐควรปล่อยตามกลไกตลาดไม่ควรแทรกแซงราคาไข่ไก่
นายณรงค์ ปานมีศรี กำนันตำบลเวียงคุก และเป็นหนึ่งในเกษตรกรเจ้าของฟาร์มไก่ไข่ บ้านเวียงคุก ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า เมื่อข่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไก่ไข่ของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ป่วยด้วยโรคนิวคาสเซิล ทำให้ต้องกำจัดแม่พันธุ์ไก่นับหมื่นตัว ทางการสั่งห้ามนำเข้าแม่พันธุ์เป็นระยะหนึ่ง ทำให้ราคาไข่ไก่ในพื้นที่จังหวัดหนองคายขยับราคาแพงขึ้น
จนกระทั่งเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จึงอนุญาตให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ นำแม่พันธุ์ไก่ไข่มาเลี้ยงใหม่ได้ โดยใช้เวลา 4 เดือน ไก่ไข่จึงจะออกไข่
ขณะนี้ไก่ไข่ที่เลี้ยงไว้ในประมาณ 6,000 ตัว ออกไข่ได้วันละ 100 ถาด หรือประมาณ 3,000 ฟอง คิดเป็นร้อยละ 70 ของปริมาณไก่ไข่ทั้งหมด โดยราคาขายหน้าฟาร์ม ไข่ไก่คละเบอร์ ตั้งแต่เบอร์ 0-3 ถาดละ 100 บาท เฉลี่ยตกฟองละ 3 บาท ซึ่งไม่เกินกว่าที่ราคารัฐบาลกำหนด
พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อก็จะนำไปขายต่อฟองละ 3-4 บาท หรือถาดละ 120 บาท ในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ดีสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ที่สามารถขายไข่ได้ราคาดี ประกอบกับอาหารไก่ปรับลดราคาลง จากเดิมกระสอบละ 435 บาท ลดลงเหลือ 430 บาท ทำให้เกษตรกรลดต้นทุนลงได้บางส่วน และพอมีกำไรบ้าง
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่ควรแทรกแซงราคาไข่ไก่ ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งจะได้ไม่ส่งผลกระทบด้านอื่นๆ ทั้งราคาต้นทุนการผลิต อาหารสัตว์ แม่พันธุ์ไก่ ยารักษาโรค แม้ว่าช่วงนี้ราคาไข่ไก่จะสูง
แต่เชื่อว่าหลังจากที่แม่พันธุ์ไก่ไข่โตเต็มที่สามารถออกไข่ได้ในปริมาณปกติ อาจทำให้ไข่ไก่ล้นตลาด และราคาปรับลดลงมา ซึ่งจะทำให้ทั้งผู้บริโภค และเกษตรกรผู้เลี้ยงสามารถปรับตัวได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว เกษตรกรต้องเตรียมพร้อมรับมืออาจเกิดโรคระบาด ทั้งโรคไข้หวัดนก และโรคนิวคาสเซิล ที่กระทบต่อต้นทุนการผลิตไข่ไก่