พิษณุโลก - ชาวนาบางระกำ โวยขนข้าวเข้าจำนำตามโรงสีแล้วแต่กลับไม่มีชื่อในสารบบ เหตุผู้นำท้องถิ่น-เกษตรอำเภอ ส่งเอกสารช้าชื่อตกสำรวจ เข้าโครงการนาปรังรอบ 2 ไม่ได้ แถมตัดใจขายสดกลับถูกกดราคาเหลือตันละ 6 พันกว่า
วันนี้ (9 ก.ย.) นายสุรินทร์ เกษจิ๋ว แกนนำชาวนาหมู่ 5 หมู่ 11 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พร้อมชาวบ้านกว่า 20 คน เข้าร้องเรียนปัญหาจำนำข้าวนาปรังต่อเกษตรจังหวัด เนื่องจากไม่สามารถเข้าร่วมโครงการอบที่ 2 โดยคาดว่าผู้ใหญ่บ้าน เกษตรตำบลเพิกเฉย ส่งผลให้เอกสารไม่สมบูรณ์ ทำให้ชาวนาที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไม่ได้ 47 ราย พื้นที่กว่า 1,000 ไร่
นายใจ สุมโชติ หนึ่งใน 47 เกษตรกร อ.บางระกำ ที่เข้าร้องเรียนกล่าวว่า ชาวนาที่ประสบปัญหาส่วนใหญ่ปลูกข้าวในโครงการไชยานุภาพ กองทัพภาคที่ 3 มี 47 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 1,000 ไร่ เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งที่ผ่านมา สามารถเข้าร่วมโครงการรับจำนำ และประกันราคาข้าวของรัฐบาลได้ตามปกติ กระทั่งปีนี้ชาวนากลับขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรทำนาปลูกข้าวไม่ได้ เนื่องจากผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรตำบลไม่แจ้งรายละเอียดการขึ้นทะเบียน
ทำให้ไม่มีการทำประชาคมเพื่อออกใบรับรองเกษตรกร จนล่าสุด ไม่สามารถนำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำได้ เมื่อไปสอบถามเกษตรกรอำเภอบางระกำ ก็ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งตนมีที่นา 40ไร่ ลงทะเบียนปลูกข้าวปี 2555/2556 นาปรังรอบ 2 วันที่ 21 เมษายน 2556 ถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2556 หลังเก็บเกี่ยวแล้วนำข้าวไปเข้าร่วมโครงการับจำนำกับโรงสี ทราบว่าเอกสารไม่เรียบร้อย จึงฝากข้าวไว้กับทางโรงสี หวังจะรอทำเอกสารให้เรียบร้อย แต่พอไปให้ยื่นเอกสาร โดยเฉพาะโฉนดที่ดินกลับบอกว่าส่งหลักฐานช้าเกินไป ซึ่งถ้าขายให้โรงสีก็ได้ราคาแค่ 6,000 กว่าบาทต่อตัน
นางมะลิ กันวงค์ เกษตรกร หมู่ 11 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ กล่าวว่า เกิดปัญหากับผู้ใหญ่บ้านและเกษตรตำบล จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการรับจำนำได้ ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น ปุ๋ย ยา และน้ำมันแพง หลังมาร้องเรียนแล้วเจ้าหน้าที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ชาวนาได้ คงต้องยอมขายข้าวในราคาตันละ 6,300 บาท จากปกติหากจำนำจะได้ 11,500 บาท ทำให้ชาวนาเดือดร้อน สูญเสียรายได้ และแบกรับภาระขาดทุนจากการทำนารายละกว่า 1 แสนบาท
ด้านนายวีระศักดิ์ อัตถไพศาล เกษตรจังหวัดพิษณุโลก ที่ออกมารับเรื่องร้องเรียนกล่าวว่า จ.พิษณุโลก มีปัญหาจากข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ทำให้ไม่สามารถทำประชาคม และออกใบรับรองเกษตรกรได้ทัน 3 อำเภอ คือ อ.พรหมพิราม 200 คน อ.วัดโบสถ์ 40 คน และ อ.บางระกำ 40 คน ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบเพื่อช่วยเหลืออยู่ แต่สำหรับเกษตรกรบางระกำ 2 หมู่บ้าน ที่มาเรียกร้องอยู่นอกเหนือการช่วยเหลือ เนื่องจากมาช้า ทำประชาคมหมู่บ้านทำไม่ได้ เพราะในนาไม่มีข้าว คงต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการต่อ
ล่าสุด ชาวนาบางระกำทั้ง 47 ราย ยืนยันว่าจะไปเรียกร้องที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.)