ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง พาผู้นำชุมชนพร้อมหน่วยงานรัฐ ไปดูสินค้าหมู่บ้านโอทอป ท่าเรือ ที่ประเทศญี่ปุ่น หวังนำมาปรับใช้ในพื้นที่ สร้างรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงศ์ ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมคณะผู้บริหาร ได้พาคณะชุมชนแหลมฉบัง ชุมชนบางละมุง และชุมชนตะเคียนเตี้ย ไปศึกษาดูงานหมู่บ้านโอทอป และการบริหารท่าเรือฮากาตะ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 3 วัน เพื่อให้เห็นการบริหารงานของต่างประเทศ เพื่อนำมาพัฒนาปรับใช้ในการพื้นที่แหลมฉบัง และพื้นที่ใกล้เคียงให้มีการเจริญเติบโตต่อไป
เรือเอกสุทธินันท์ กล่าวว่า การพาชุมชน หรือหน่วยงานราชการในพื้นที่ไปดูงานต่างประเทศนั้น ไม่ได้ต้องการให้มาสนับสนุนการทำกิจกรรมของการท่าเรือ แต่ต้องการให้ชาวชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาท่าเรือ เพิ่มพูนประสบการณ์ เรียนรู้เกี่ยวกับกิจการท่าเรือ รวมทั้งเก็บเกี่ยวความรู้จากต้นกำเนิดสินค้าโอทอป ซึ่งได้แนวความคิดมาจาก Ovop ของเมืองโออิตะ ซึ่งเป็นเพียงเมืองเล็กๆ บนเกาะคิวชู เกิดจากการรวมตัวกันเองของคนในหมู่บ้าน โดยผู้นำชุมชนอาจนำแนวความคิดมาพัฒนาในหมู่บ้านแหลมฉบัง เพื่อให้การท่าเรือ และชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยดี ไม่มีปัญหา หรือกระทบกระทั่งซึ่งกันและกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ท่าเรือต้องการให้ชุมชน หรือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบเสนอความคิดเห็นต่างๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่เห็นด้วยกับโครงการของท่าเรือ แต่สิ่งไหนที่เห็นด้วยก็ต้องร่วมกันส่งเสริมพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
นายอัมพร คชรัตน์ ประธานชุมชนบ้านแหลมฉบัง กล่าวว่า การที่ท่าเรือแหลมฉบัง พาชาวบ้านและส่วนราชการไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องที่ดี ที่ให้ชุมชนได้เปิดหูเปิดตา เช่น การไปดูหมู่บ้านโอทอป ดูการบริหารงานท่าเรือ ซึ่งจะต้องนำมาพัฒนาชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น ความรู้ที่ได้จากหมู่บ้านโอทอป สามารถนำมาปรับปรุงสินค้าโอทอปของชาวบ้านแหลมฉบังให้ดีขึ้น ทั้งรูปแบบของสินค้า คุณภาพ แพกเกจจิ้ง จะช่วยให้สินค้าน่าซื้อมากขึ้น โดยการท่าเรือพร้อมให้การสนับสนุน
ดร.ประกายภาพ ชะอุ่ม ปลัดเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย กล่าวว่า ปัญหาของท่าเรือแหลมฉบังมีมานาน ผ่านมามาหลายผู้บริหารแล้ว ซึ่งนโยบายการบริหารงานก็แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นอยู่ของชุมชนที่อยู่รอบท่าเรือ แต่หลังจากมีผู้บริหารคนปัจจุบันก็มีแนวความคิดจะมาพัฒนา และดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โดยหลังจากมีการพูดคุย และเสนอความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย ซึ่งมีแนวความคิดใกล้เคียงกัน ดังนั้น ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้โครงการต่างๆ ประสบผลสำเร็จ และส่งผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่มีปัญหาหรือผลกระทบกับทั้ง 2 ฝ่ายตลอดไป
ด้านนายสนธิ คชวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ท่าเรือแหลมฉบังเปิดใจ และเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในพื้นที่ และใกล้เคียงได้รับข้อมูลข่าวสารภายในท่าเรือ ทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งหากเป็นข้อดีก็ช่วยกันผลักดันให้ดียิ่งขึ้น แต่หากมีข้อเสีย เกิดผลกระทบต่อชุมชน และประชาชนก็ร่วมมือกันแก้ไข เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
โดยหากโครงการไหนมีปัญหา ทางท่าเรือจะชะลอ หรือหาแนวทางแก้ไขเพื่อให้ปัญหาหมดไปก่อนที่จะดำเนินโครงการนั้น ซึ่งการท่าเรือพาชาวชุมชน และส่วนราชการไปศึกษาดูงานต่างประเทศนับเป็นประสบการณ์ของชาวบ้านที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศมีการดำเนินการในลักษณะที่ใกล้เคียงกับเรา จะได้นำมาปรับปรุงแก้ไข เพราะในอนาคตความเจริญเติบโตจะไม่ใช่แค่เพียงท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้น แต่ต้องประสานความร่วมมือกับท่าเรือต่างๆ ทั่วโลก จึงจะต้องมีการบริการจัดการที่ดี