ตราด - พบโครงกระดูกนักท่องเที่ยวต่างชาติผูกคอดับกลางป่าเกาะช้าง คาดเสียชีวิตมานาน 7 เดือน ด้านตำรวจท่องเที่ยวเผยญาติตามหานาน กว่า 2 ปี
วันนี้ (7 ก.ย.) พ.ต.ต.อมร หงส์คำ พนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้าง จ.ตราด พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชวินทร์ มัธยมานันท์ สว.สส.สภ.เกาะช้าง ร.ต.ต.ปรีชา เพียวสูงเนิน รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 6 (ตราด) แพทย์จาก รพ.สต.บ้านบางเบ้า ต.เกาะช้างใต้ อาสาสมัครสมาคมกู้ภัยบุญช่วยเหลือ เขต อ.เกาะช้าง ได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า ได้ไป หาของป่าแล้วได้พบโครงกระดูกหลายชิ้น เช่น หัวกะโหลก และส่วนอื่นๆ ของร่างกายมนุษย์ กระจัดกระจายใต้ต้นมะซางขนาดใหญ่ ภายในป่าบนเทือกเขา ห่างจากโรงแรมเกาะช้างแกรนด์ลากูน่า รีสอร์ท บ้านบางเบ้า หมู่ 1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง ประมาณ 800 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าลัดเลาะหน้าผาหินริมทะเล ปีนหน้าผาเข้าป่าขึ้นไปยังที่เกิดเหตุใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบหัวกะโหลกมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่เหมือนชาวยุโรป และชิ้นส่วนโครงกระดูกอีกหลายชิ้นอยู่ที่ใต้ต้นไม้ ที่บนต้นไม้ พบเชือกไนลอนขนาดใหญ่สีเทา ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในกิจการเรือประมง ผูกติดกับกิ่งไม้ห้อยอยู่ ปลายเชือกมัดเป็นบ่วงไว้ และมีหนังเศษชิ้นเนื้อแห้ง และเศษกระดูกยังติดอยู่ตรงบ่วงเชือก น่าจะมีการแขวนคอแล้วได้เน่าเปื่อยหลุดออกไป และบนพื้นดินพบกระเป๋าเป้แบบสะพายหลังสีดำอยู่ใกล้ๆ กันบริเวณนั้น 1 ใบ มีชื่อเขียนที่ข้างกระเป๋าเป็นภาษาอังกฤษว่า HAMINTON คล้ายๆ กับเป็นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตรวจสอบในกระเป๋าเป้ พบพาสปอร์ต 1 เล่ม ระบุชื่อ MR.PAUL CLIVE HAMINTON RITCHIE อายุ 34 ปี เป็นลูกครึ่ง อินเดีย อังกฤษ ได้สัญชาติอังกฤษ
เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพนักงานของโรงแรมเกาะช้างแกรนด์ลากูน่า รีสอร์ท ที่อยู่ใกล้ๆ ในย่านนั้นได้ให้การว่า เมื่อช่วงประมาณ 7 เดือนที่ผ่านมา เคยเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติได้พายเรือคายัคผ่านหน้าโรงแรมไป แต่ไม่ทราบว่าเป็นถึงไหน ตอนขากลับเห็นพายกลับคนเดียว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันกับที่พบโครงกระดูกหรือไม่ ดูจากสภาพชิ้นส่วนที่พบเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 เดือน โดยเบื้องต้นไม่ทราบนักท่องเที่ยวดังกล่าวนั้นเข้าพักที่ไหน และได้ตั้งประเด็นการเสียชีวิตไว้คือ ผูกคอตายเอง แต่ไม่ได้ทิ้งประเด็นถูกฆาตกรรมอำพราง จะมีการสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลต่อไปสำหรับนักท่องเที่ยวที่พบโครงกระดูกรายนี้
พ.ต.ท.เสกสรร จินดาพรรณ สารวัตรสถานี ตำรวจท่องเที่ยว 6 ได้กล่าวว่า เมื่อได้ดูรายละเอียดจากพาสปอร์ตพบว่า ได้เคยมีญาติของบุคคลดังกล่าวได้แจ้งข้อมูลคนหายพร้อมภาพถ่ายไว้ที่ สถานีตำรวจท่องเที่ยว 6 (ตราด) เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ติดตามหา เมื่อช่วงปลายปี 2555 ซึ่งได้มีการติดภาพประกาศหาไว้ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วเกาะช้าง ก่อนจะมาพบกลายเป็นศพเหลือแต่โครงกระดูกดังกล่าว