ศูนย์ข่าวศรีราชา - คิว จยย.รับจ้างรวมตัวเข้าแจ้งความ หลังมีคนอ้างเป็นลูกน้อง สวป.พัทยา เรียกเก็บส่วยเดือนละ 5,000 บาท
วันนี้ (7 ก.ย.) น.ส.รินรดา เรืองศิริ อายุ 39 ปี อาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซอย 4 พระตำหนัก พัทยาใต้ จ.ชลบุรี พร้อมพวก 6 คน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังมีชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นดาบตำรวจ และลูกน้องของสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา มาเรียกเก็บค่าคุ้มครอง หรือส่วย อัตราเดือนละ 5,000 บาท โดยสามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์การข่มขู่ไว้ได้ทั้งหมด
น.ส.รินรดา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งอยู่ที่คิวกับเพื่อนร่วมอาชีพ จากนั้นได้มีชายไทยอ้างตัวเป็นดาบตำรวจ มาเรียกเก็บค่าคุ้มครอง หรือส่วย เป็นเงิน 5,000 บาท ทำให้คนในคิวเกิดความงุนงง และตกใจอย่างมาก เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และยังสามารถบันทึกเสียงไว้ได้อีกด้วยจึงรวมตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา หลังจากทราบข่าวจึงมาตรวจสอบ พร้อมสั่งให้ติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังชี้แจงว่าไม่เคยสั่งการให้ลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชาไปเรียกเก็บส่วยตามคิวจักรยานยนต์ ซึงหากถูกเรียกเก็บค่าคุ้มครองสามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเอาผิดได้ และพร้อมจะให้ความเป็นธรรม หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดไปเกี่ยวข้องจริงก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด
วันนี้ (7 ก.ย.) น.ส.รินรดา เรืองศิริ อายุ 39 ปี อาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซอย 4 พระตำหนัก พัทยาใต้ จ.ชลบุรี พร้อมพวก 6 คน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังมีชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นดาบตำรวจ และลูกน้องของสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา มาเรียกเก็บค่าคุ้มครอง หรือส่วย อัตราเดือนละ 5,000 บาท โดยสามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์การข่มขู่ไว้ได้ทั้งหมด
น.ส.รินรดา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งอยู่ที่คิวกับเพื่อนร่วมอาชีพ จากนั้นได้มีชายไทยอ้างตัวเป็นดาบตำรวจ มาเรียกเก็บค่าคุ้มครอง หรือส่วย เป็นเงิน 5,000 บาท ทำให้คนในคิวเกิดความงุนงง และตกใจอย่างมาก เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และยังสามารถบันทึกเสียงไว้ได้อีกด้วยจึงรวมตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา หลังจากทราบข่าวจึงมาตรวจสอบ พร้อมสั่งให้ติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังชี้แจงว่าไม่เคยสั่งการให้ลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชาไปเรียกเก็บส่วยตามคิวจักรยานยนต์ ซึงหากถูกเรียกเก็บค่าคุ้มครองสามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเอาผิดได้ และพร้อมจะให้ความเป็นธรรม หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดไปเกี่ยวข้องจริงก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด