xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 2 วัยรุ่นฆ่าทุบหัวชิงทรัพย์เฒ่าอเมริกัน เผยประวัติโชกโชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - รวบ 2 วัยรุ่น ฆ่าทุบหัวชิงทรัพย์เฒ่าอเมริกัน ประวัติมีหมายจับในคดีลักทรัพย์เกือบครึ่งร้อย ขณะที่ ผกก.สภ.พัทยา มาแปลกขอสื่อมวลชนไม่ให้ออกข่าว อ้างกระทบภาพลักษณ์พัทยา

วันที่ (6 ก.ย.)พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถื่อน รอง ผกก.สส. และกำลังตำรวจชุดสืบสวน ได้นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 584-585/2556 ลงวันที่ 29 ส.ค.2556 เข้าจับกุมนายอนุชา หรือนุ หวานฤดี อายุ 22 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และ นายศิรวิทย์ หรือต้า ฉุยฉาย อายุ 19 ปี ชาว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี 2 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ขณะนั่งอยู่ในร้านเกมส์แห่งหนึ่งในซอยหมู่บ้านรุ้งแลนด์ พัทยาใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ทั้งคู่

จากการตรวจสอบประวัติ นายศิรวิทย์ หรือต้า ฉุยฉาย พบว่ามีหมายจับในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.จันทบุรี กว่า 40 คดี ก่อนหลบหนีมาขอพักอาศัยในร้านเกมส์ของเพื่อนที่เมืองพัทยา ซึ่งแนวทางการสืบสวนยังทราบอีกว่า ระหว่างที่อยู่เมืองพัทยา นายศิรวิทย์ และนายอนุชา ยังได้ร่วมกับพวกออกตระเวนขโมยฝาท่อระบายน้ำทั้งในพื้นที่เมืองพัทยาและบางละมุง

จากการสอบปากคำทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า กลางดึกวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมาได้แอบปีนรั้วกำแพงเข้างัดเข้าบ้านของนายสตีเฟ่น เพื่อที่จะขโมยทรัพย์สิน แต่เพราะเจ้าของบ้านที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงตื่นขึ้นมาเจอ นายอนุชา จึงใช้ท่อนไม้ที่เตรียมมาเป็นอาวุธ ตีเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้ง และใช้หมอนกดใบหน้านายสตีเฟ่น ที่ทำท่าจะร้องโวยวาย ก่อนที่นายศิรวิทย์ จะใช้ไม้ท่อนเดียวกันกระหน่ำตีซ้ำจนเสียชีวิตคาที่

หลังจากนั้นได้พากันรื้อค้นทรัพย์สินเป็นเงินสด 8,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และไอแพด ก่อนพากันหนีไปกบดานในร้านเกมส์

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้พูดจาขอร้องไม่ให้สื่อนำเสนอข่าวดังกล่าว พร้อมอ้างว่าจะทำให้เมืองพัทยาเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งๆที่การจับกุมคดีอุกฉกรรจ์ถือเป็นผลชิ้นชิ้นโบว์แดงของชุดสืบสวน นอกจากนี้ยังห้ามไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ข่าวกับสื่อฯ สร้างความงุนงงให้กับผู้สื่อข่าวเป็นอย่างมาก

กำลังโหลดความคิดเห็น