กาญจนบุรี - เด็กนักเรียนในสังขละบุรี กาญจน์ ดีใจ หลังทุกหน่วยงานเร่งสร้างสะพานลูกบวบทดแทนสะพานไม้ “สะพานอุตตมานุสรณ์” ที่พังถล่มจนแล้วเสร็จ ทำให้ผู้ปกครองได้ลดค่าใช้จ่ายลงวันละ 50 บาท ด้าน “นายกเล็กวังกะ” วางแผนจัดเวรยามเฝ้าระวังความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวบนสะพานลูกบวบ หวั่นได้รับอันตราย
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.) ที่เทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายปกรณ์ น้อยเกตุ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ร่วมกับ นายมานพ เกิดแดง ปลัด อบต.วังกะ นายพัฒนา ราชกรม ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลวังกะ เจ้าหน้าที่ อป.พร.เทศบาลตำบลวังกะ และเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมหารือแนวทางการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมสะพานลูกบวบ
นายปกรณ์ น้อยเกตุ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ กล่าวว่า หลังจากที่สะพานไม้ (สะพานมอญ) หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ พังถล่มลงมา ทำให้ประชาชน และเด็กนักเรียนไม่สามารถเดินทางสัญจรไปมาได้ ต่อมา ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสะพานลูกบวบขึ้นมาเพื่อทดแทนสะพานไม้ที่ขาดจากกัน ตามแนวคิดของ พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในโครงการ หนึ่งคนหนึ่งลำไม้ไผ่ ซึ่งปรากฏว่า การสร้างสะพานลูกบวบใช้เวลาเพียงแค่ 6 วันก็ทำได้สำเร็จ จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 2-3 อาทิตย์
ภายหลังจากที่สร้างสะพานลูกบวบแล้วเสร็จ ประกอบสื่อมวลชนในพื้นที่ได้นำเสนอภาพข่าวออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมลงมาเดินที่สะพานลูกบวบที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อถ่ายภาพให้เห็นภาพของสะพานไม้ที่ขาดจากกัน จึงทำให้ทางเทศบาลตำบลวังกะ เกิดความกังวล และเป็นห่วงว่าหากมีนักท่องเที่ยวอยู่บนสะพานลูกบวบเป็นจำนวนมากๆ ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะสะพานลูกบวบสามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 200 คน แต่จะต้องอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย ไม่ใช่มาอยู่เป็นกลุ่มรวมกันจุดเดียว
ดังนั้น จึงอยากฝากเตือนนักท่องเที่ยวว่า ขออย่ามาอยู่รวมเป็นจุดเดียวกันอย่างเด็ดขาด หากต้องการถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกก็ขอให้ทยอยกันเข้ามาถ่ายภาพ ซึ่งจะปลอดภัยที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลวังกะ มีแนวทางที่จะส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อป.พร.จัดเวรยามเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุด ซึ่งจะมีอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือชีวิตหากมีนักท่องเที่ยวพลาดพลัดตกลงไปในแม่น้ำ และทางเทศบาลได้ติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยวเอาไว้ที่ทางลงสะพานลูกบวบทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำแล้ว และขอให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง
“เชื่อว่าหากสะพานไม้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ในเร็วๆ นี้ สะพานลูกบวบจะใช้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้งรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วย” นายปกรณ์กล่าว
ด.ญ.พัชราวลี ดำรงค์ธรรมประเสริฐ และนายวรรธนัย เจริญศรี นักเรียนโรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา โรงเรียนประจำอำเภอสังขละบุรี ร่วมกันกล่าวว่า ตนเป็นลูกหลานของชาวมอญที่อาศัยอยู่หมู่บ้านวังกะ หรือหมู่บ้านมอญ หมู่ 2 ปกติตนกับเพื่อนๆ จะเดินเท้าข้ามสะพานไม้เพื่อไปโรงเรียนเป็นประจำทุกวัน เพราะโรงเรียนที่พวกตนเรียนอยู่นั้นอยู่คนละฝั่งกับแม่น้ำ ภายหลังจากที่สะพานไม้ถูกกระแสน้ำพัดขาด ทำให้พวกตนต้องอาศัยรถประจำทางในการเดินทาง และระยะทางจะไกลมากขึ้น ทำให้ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทุกคนต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่ารถโดยสารในการเดินทางไปโรงเรียนวันละ 50-60 บาท ทำให้พ่อแม่ของเด็กนักเรียนแต่ละคนต้องเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีก
แต่ภายหลังชาวบ้านสามารถสร้างสะพานลูกบวบขึ้นมาทดแทนสะพานไม้ที่ขาดไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่ต้องเสียค่ารถโดยสารอีก พวกตนรู้สึกดีใจที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงเรียน และรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะสะพานลูกบวบที่สร้างขึ้นมาทดแทนนั้น จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสังขละบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี