ชาวสวนยางระยอง-ชลบุรี รวมตัวปิดถนนประท้วง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวสวนยางพารา 8 อำเภอของ จ.ระยอง และชลบุรีกว่า 700 คน รวมตัวปิดถนนสุขุมวิท ขาเข้า จ.ระยอง และหน้าศาลากลาง เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาราคายาง พร้อมเผาโลงศพ “ยิ่งลักษณ์-ยุคล” แสดงความไม่พอใจ

เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (3 ก.ย.) ชาวสวนยางพารากว่า 700 คน จาก 8 อำเภอใน จ.ระยอง และจาก จ.ชลบุรี ชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดระยอง และปิดถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าตัวเมืองระยองทั้ง 4 ช่องจราจร โดยมีนายเศรษฐา ปิตุเตชะ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ระยอง นายเสนาะ ยมหา นายอุทิศ ซื่อประเสริฐ นายวิษณุ เกตุสริยา และนายสมพร พันธ์เฉลิมชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เป็นแกนนำ

เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยชาวสวนยางพาราประกาศไม่รับหลักการความช่วยเหลือ 1,260 บาทต่อไร่ เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ

ซึ่งการชุมนุมในครั้งนี้ พ.ต.อ.สมนึก บุรมิ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง นำกำลังชุดปราบจลาจล 2 กองร้อย และตำรวจ สภ.มาบตาพุด มาดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว

โดยแกนนำชาวสวนยางใช้รถบรรทุก 6 ล้อเป็นเวทีชั่วคราวปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล ทั้งปัญหาราคายางพารา ความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องแบกรับราคาก๊าซหุงต้มที่พุ่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับการปรับขึ้นค่าทางด่วน และค่าเอฟทีไฟฟ้า รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน

ทั้งนี้ กลุ่มแกนนำได้เรียกร้องให้ นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการตจังหวัดระยอง ออกมารับหนังสือข้อเรียกร้องของเกษตรกร ประกอบด้วย การกำหนดราคารับซื้อยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่ 101 บาทต่อกิโลกรัม ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ที่ 92 บาท น้ำยางสด 81 บาท ยางก้อนถ้วย 100% ที่ 83 บาท ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมกำหนดมาตรการปิดถนน 3 วัน เพื่อรอฟังคำตอบจากรัฐบาล

ในช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ยังได้มีการเผาโลงศพจำลองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแสดงความไม่พอใจอีกด้วย

ด้านนายวิชิต ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ปัญหาการชุมนุมเรียกร้องปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เพื่อนำปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และชาวสวนยางเสนอรัฐบาลให้ทราบโดยเร็ว

นายวิชิต กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจพี่น้องประชาชนในการเดินทางมาชุมนุม ขอให้ชุมนุมอยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน