xs
xsm
sm
md
lg

วัยรุ่นสัตหีบซิ่งเก๋งหวังไปช่วยเพื่อนที่ถูกรุมสกรัม สุดท้ายรถเสียหลักพลิกคว่ำดับ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - วัยรุ่นสัตหีบ ซิ่งเก๋งออกจากวงหล้าหวังไปช่วยเพื่อนที่ถูกโจ๋ต่างถิ่นรุมสกรัมจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเพราะแย่งจีบสาวในร้านคาราโอเกะ สุดท้ายรถเสียหลักเหินขึ้นเกาะกลางถนนพุ่งชนป้าย และเสาไฟฟ้า ก่อนพลิกคว่ำหลายตลบ เป็นเหตุให้ นศ.เทคนิคสัตหีบ คอหักดับสยอง ส่วนเพื่อนอีก 2 คนที่นั่งมาด้วยกันรอดหวุดหวิด ด้านคนขับหนีกระเจิงทั้งที่ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (3 ก.ย.) ร.ต.ท.อุบล วงศ์คำชัย ร้อยเวรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนสุขุมวิท กม.182 สัตหีบ-กิโลเมตรที่ 10 หน้าหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ 10 หมู่ 6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีฟ้า ทะเบียน ษย 9771 กรุงเทพมหานคร หงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่กลางถนนสภาพพังยับเยิน กระจกแตกทุกบาน ประตูฝั่งคนขับพบศพ นายเทียมชัย สาเริก อายุ 22 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ ระดับ ปวช.1 สาขาช่างไฟฟ้า ลำตัวครึ่งท่อนซีกซ้ายโผล่ออกมานอกรถ สภาพคว่ำหน้าจมกองเลือด คอหัก กะโหลกศีรษะแตก มันสมองกระจายเกลื่อนพื้นถนน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดร่างออกมา

ใกล้กันพบผู้โดยสาร 2 ราย ซึ่งกระเด็นออกจากตัวรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย คือ นายอนุรักษ์ แก้วมอญ อายุ 24 ปี และ น.ส.สุพัตตรา สุขเจริญ อายุ 22 ปี ส่วนคนขับทราบชื่อ นายสายชล (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 30 ปี ได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุทั้งที่ได้รับบาดเจ็บ และในที่เกิดเหตุยังพบเสาเหล็กบอกทางกลับหักโค่น เสาไฟฟ้าส่องสว่างได้รับความเสียหาย

จากการสอบสวน นายอนุรักษ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มฉลองกันอยู่ในงานวันเกิด และทราบข่าวว่าเพื่อนในกลุ่มคือ นายประวิทย์ ชินวิวัฒนพล อายุ 26 ปี และนายชาตรี ศรีพลอย อายุ 23 ปี ถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ พักรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ จึงรีบพากันขึ้นรถของ นายสายชล เพื่อไปดูเพื่อน

แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เกิดเสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนน ก่อนจะเหินพุ่งชนป้ายบอกทาง และเสาไฟฟ้า จนเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ เป็นเหตุให้ร่างของตนกระเด็นออกมานอกรถพร้อมกับเพื่อนสาว ส่วนนายสายชล เมื่อรู้ว่ามีคนตายเกิดความตกใจวิ่งหนีไปจากที่เกิดเหตุ


กำลังโหลดความคิดเห็น