เมียสมีคำขอศาลไต่สวนฟ้องค่าเสียหายให้เป็นคดีอนาถา

อุบลราชธานี - ดีเอสไอและทนายความพาอดีตเมียพระเณรคำ ซึ่งฟ้องค่าเสียหายร่วมกับยายเป็นเงิน 100 ล้านบาท ขึ้นไต่สวนที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานีให้รับเป็นคดีอนาถา เผยศาลนัดฟังคำพิจารณาคดี 9 ก.ย. ส่วนกรณีฟ้องให้อดีตเณรคำรับลูกเป็นบุตร พร้อมจ่ายค่าเลี้ยงดู 40 ล้านบาท ศาลเยาวชนและครอบครัวศรีสะเกษนัดสืบพยานนัดแรก 9 ก.ย.เช่นกัน

วันนี้ (2 ก.ย.) นายสมชาติ วงศ์ธราธร ทนายความและเจ้าหน้าที่คุ้มครองพยาน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำ น.ส.หญิง (นามสมมติ) ภรรยานายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ยายของ น.ส.หญิง และเพื่อนบ้านรวม 3 ปาก เข้าเบิกความต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี กรณีให้ทนายความยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายวิรพลเป็นเงินรวมกัน 100 ล้านบาท เพื่อขอให้ศาลรับฟ้องเป็นคดีอนาถา โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง จากนั้นศาลได้นัด น.ส.หญิง และยายมาฟังคำตัดสินว่าจะรับฟ้องเป็นคดีอนาถาหรือไม่วันที่ 9 กันยายน

นายสมชาติ วงศ์ธราธร ทนายความ กล่าวว่า น.ส.หญิงได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากนายวิรพลที่ข่มเหงกระทำชำเราตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน ทำให้ตั้งภรรค์ มีบุตรด้วยกัน 1 คน เป็นมูลค่า 70 ล้านบาท ส่วนยาย น.ส.หญิงฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานพรากผู้เยาว์ 30 ล้านบาท โดยได้นำเพื่อนบ้านมาเบิกความเป็นพยานว่าผู้เสียหายทั้งสองยากจนจริง

หากศาลรับฟ้องเป็นคดีอนาถาก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่หากศาลไม่รับคดีก็อาจต้องยุติไปเพราะ น.ส.หญิงคงไม่มีเงินมาจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมฟ้องร้องได้ สำหรับกรณีที่ฟ้องนายวิรพลให้รับเด็กชายที่เกิดกับ น.ส.หญิงเป็นบุตร และเรียกค่าเลี้ยงดูเป็นเงิน 40 ล้านบาท ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษนัดสืบพยานนัดแรกวันที่ 9 กันยายน โดยได้เตรียมพยานขึ้นเบิกความ 2 ปาก เป็นยายและแม่ของเด็กชายรายนี้

นายสมชาติกล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้จะได้รับเงินค่าเสียหายเป็นมูลค่าเท่าใดนั้นยังบอกไม่ได้ เพราะต้องดูจากการยึดทรัพย์ว่านายวิรพลมีทรัพย์สินที่ได้มาโดยบริสุทธิ์คิดเป็นมูลค่าเท่าใด ผู้เสียหายก็จะได้รับไปตามสิทธิที่ศาลได้ตัดสินให้