มหาสารคาม - เกิดอุบัติเหตุรถชนกันที่บริเวณทางโค้ง ฝั่งเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ใกล้กับสถานีวิทยุทหารอากาศ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหามส่งโรงพยาบาล เผยปิกอัพสวนเลนชนรถเก๋งจนทำคนขับเก๋งเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 19.30 น. วันนี้(31ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันที่บริเวณทางโค้ง ฝั่งเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ใกล้กับสถานีวิทยุทหารอากาศ ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ ให้รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ
จากนั้นได้แจ้ง หน่วยกู้ภัยจีเสียงเกาะ กู้ภัยเทพนิมิตร กู้ชีพโรงพยาบาลมหาสารคาม และ ร.ต.ท.ยุทธนา ลาดสีโท ร้อยเวรฯ สภ.เมืองมหาสารคาม ให้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
โดยในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 6730 มหาสารคาม ชนอยู่กับรถปิคอัพ โตโยต้าวีโก้ สีบรอน์ซเงิน หมายเลขทะเบียน บน 3096 ร้อยเอ็ด โดยรถปิคอัพวิ่งสวนเลนมาชนรถฮอนด้าซีวิค โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นางนงเยาว์ ดรเหนือ อายุ 48 ปี ชาว ต.โพนสูง อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งโดยสารมากับรถปิคอัพ
ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือนางสาวเบญจมาศ ไหมหรือ อายุ 36 ปี คนขับรถฮอนด้าซีวิค มีอาการจับหน้าอก และหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม ส่วนคนขับรถปิคอัพ คือ นายสนิท กาสิงห์ อายุ 60 ปี คนขับรถปิคอัพคันเกิดเหตุ ซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบถาม นางสาวจรินยา โพธิ์สิงห์ ผู้โดยสารที่มากับรถฮอนด้าซีวิค เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนางสาวเบญจมาศ คนขับรถ มาจากอำเภอวาปีปทุม มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ซึ่งเหลืออีกเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้นก็จะเข้าเขตเทศบาลเมืองมหาสารคามแล้ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง และรถของตนก็วิ่งมาในเลนขวา
ส่วนรถปิคอัพได้ขับสวนเลนมา และเป็นทางโค้งพอดี ทำให้เบรกไม่ทัน และพุ่งชนอย่างแรง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ ชายคนขับรถปิคอัพ ยังได้เปิดประตูลงมาต่อว่าพวกตน ว่าขับรถประสาอะไร ถึงได้มาชน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองขับรถสวนเลนมาแท้ ๆ
ด้าน ร.ต.ท.ยุทธนา ลาดสีโท ร้อยเวรฯ สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบวา รถปิคอัพได้ขับรถสวนเลนมาตั้งแต่แยกวาปีปทุม จนมาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถฮอนด้า ซีวิค เบื้องต้นได้สอบถามนายสนิท คนขับรถปิคอัพ ให้การว่า หลงทาง เพราะเมื่อสิบกว่าปีก่อน เคยมาถนนเส้นนี้ เป็นถนนสวนเลน จึงได้ขับสวนเลนมา ไม่คิดว่าจะไม่ใช่เลนของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะได้สอบถามจากพยานแวดล้อมและสอบสวนนายสนิท คนขับรถ เพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่