ชาวกาฬสินธุ์ไม่เชื่อน้ำยารัฐบาล แนะทางออกปัญหายางต้องประกันราคาแบบข้าว

กาฬสินธุ์ - เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่เชื่อมั่นรัฐทุ่มเงิน 2 หมื่นล้านบาทแก้ราคายางพาราตกต่ำ ระบุแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ถูกจุด หวั่นพ่อค้าได้ผลประโยชน์มากกว่าเกษตรกร จี้รัฐบาลประกันราคาหรือแทรกแซงราคายางเท่านั้น ขู่เคลื่อนชาวสวนยางร่วมม็อบสวนยางทั่วประเทศกดดันรัฐ

วันนี้ (29 ส.ค.) บรรยากาศการซื้อ-ขายยางพาราของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งสหกรณ์ สกย.ท่าคันโท จำกัด ได้เปิดรับซื้อและประมูลยางพาราฤดูกาลผลิตปี 2556/2557 ครั้งที่ 9 โดยบรรยากาศการซื้อ-ขายค่อนข้างเงียบเหงาไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ยังชะลอกรีดยางมาขาย ส่วนใหญ่ยังเฝ้ารอฟังคำตอบและมติการแก้ไขปัญหายางพาราของรัฐบาลในวันที่ 3 กันยายนนี้

อย่างไรก็ตาม มีเกษตรกรบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่รัฐบาลจะใช้เงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาทแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะแนวทางจ่ายค่าช่วยเหลือให้เกษตรกรไร่ละ 1,260 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่

ทั้งนี้ เกษตรกรระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แก้ไม่ถูกจุด และยังทำให้พ่อค้าที่รับซื้อได้ประโยชน์มากกว่าเกษตรกร พร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยให้ประกันราคายาง หรือแทรกแซงราคายางพาราเหมือนกับโครงการรับจำนำข้าว และโครงการประกันราคามันสำปะหลังเท่านั้นถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

นายประมูล ผาภูมิ ผู้ทรงคุณวุฒิสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ และประธานกลุ่มผู้ปลูกยางพาราจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ไม่เชื่อมั่นและไม่เห็นด้วยกับแนวทางแก้ปัญหาของรัฐบาล ที่ทุ่มเงิน 2 หมื่นล้านบาทเข้ามาแก้ปัญหายางพารา โดยเฉพาะการจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรที่ปลูกยางไร่ละ 1,260 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่ ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่ถูกจุด เพราะต่อไปราคายางก็จะตกต่ำเหมือนเดิม

รัฐบาลควรจะแก้ปัญหาโดยการประกันราคายาง หรือแทรกแซงรับซื้อยางพารา ทำให้เหมือนกับโครงการรับจำนำข้าว หรือการประกันราคามันสำปะหลัง ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว และการทุ่มเงินเข้ามาแก้ไขปัญหาครั้งนี้เกรงว่าเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราจะไม่ได้ประโยชน์ แต่ผู้ที่ได้ประโยชน์จะเป็นพ่อค้าที่รับซื้อเหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา

นายประมูลกล่าวว่า สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวขณะนี้กลุ่มและสมาชิกผู้ปลูกยางพาราในจังหวัดกาฬสินธุ์ทั้ง 37 กลุ่ม จำนวนกว่า 15,000 ราย กำลังรอฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 3 กันยายน 2556 นี้ก่อน แต่หากผลประชุมและมีมติออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ กลุ่มผู้ปลูกยางพาราในจังหวัดกาฬสินธุ์พร้อมจะร่วมกับกลุ่มผู้ปลูกยางทั่วประเทศเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลทุกรูปแบบให้แก้ไขปัญหาให้ได้

สำหรับข้อเสนอเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคารับซื้อ โดยยางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 92 บาท ยางก้อนถ้วย 100% กิโลกรัมละ 83 บาท น้ำยางสดกิโลกรัมละ 81 บาท และยางแผ่นรมควันกิโลกรัมละ 101 บาท

ด้านนายวานิต กุลวงศ์ ประธานสหกรณ์ สกย.ท่าทันโท จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารากำลังเดือดร้อนอย่างหนักเพราะแบกรับภาวะขาดทุนมานาน ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ตั้งแต่เริ่มปลูกยางพารา ทั้งค่าพันธุ์ยาง ค่าไถ ค่าแรง ค่าปุ๋ย และใช้เวลานานกว่า 7 ปีถึงจะสามารถกรีดยางได้ เฉลี่ยต้นทุนการเพาะปลูกไร่ละประมาณ 8 หมื่นบาท

แต่ปัจจุบันราคายางกลับตกต่ำลงเรื่อยๆ เกษตรกรต้องขาดทุน ไม่มีเงินไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาลงทุน บางรายขาดทุนถึงขั้นขายที่ดิน และเลิกอาชีพปลูกยางพาราไปแล้วหลายราย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย