อุตฯ หนองคายเก็บตัวอย่างปลาในกระชังน้ำโขงตายไม่ทราบสาเหตุ

หนองคาย - เจ้าหน้าที่ออกสำรวจเก็บตัวอย่างน้ำและปลากระชังที่เลี้ยงในน้ำโขงในพื้นที่บ้านพร้าวใต้ หมู่ 6 และบ้านเจริญสุข หมู่ที่ 7 ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย หลังจากที่มีปลากระชังของเกษตรกรตายทุกวันโดยไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (26 ส.ค.) นายสมพล โนดไธสง อุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกมาสำรวจและเก็บข้อมูลจากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในตำบลหินโงม อ.เมืองหนองคาย เก็บตัวอย่างน้ำทั้งทางด้านเหนือและท้ายกระชังปลาที่เกษตรกรเลี้ยงในพื้นที่ หลังจากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาร้องขอความช่วยเหลือมีปลาที่เลี้ยงไว้ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

นายหนูคูณ เหล่าหนาด อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.7 ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย บอกว่าตนเลี้ยงปลามา 7 ปี กว่า 10 กระชัง ลงทุนกระชังละ 80,000 บาท ปลาที่เลี้ยงไว้ตายเกือบทุกปี แต่ละปีเสียหายจำนวนมาก

ตนได้ลงปลาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2556 จำนวน 25,000 ตัว ตัวละ 6 บาท ซึ่งเป็นปลาขนาด 2.5 นิ้ว พอลงปลาได้แค่ 3 วันปลาก็เริ่มตาย โดยจะตายวันละกว่า 2 ถุงปุ๋ย หรือประมาณวันละ 1,000 ตัว

ล่าสุดมาวันนี้ (26 ส.ค.) รวมแค่ 11 วันปลาที่เลี้ยงไว้ตายไปกว่า 15,000 ตัว จากนี้ไปจะตายอีกไม่รู้กี่ตัว อยากขอให้ทางการเข้าช่วยเหลือดูแล

ด้านนายเฉลียว เทียนวรรณ ประมงจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เบื้องต้นปลาที่ตายน่าจะเกิดจากการติดเชื้อพาราไซต์ภายนอกที่ติดเกาะตามเกล็ดปลา บางตัวติดเชื้อจากภายใน

อาการท้องบวม สันนิษฐานว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรียจากฟาร์มอนุบาล ส่วนน้ำในแม่น้ำโขง นั้นเป็นฤดูน้ำแดง ออกซิเจนต่ำ ถ้าปลาอ่อนแอก็มีส่วนที่จะทำให้เชื้อโรคที่มากับน้ำเข้าสู่ตัวปลาได้ง่าย แล้วจะทำให้ปลาท้องบวม ไม่กินอาหารแล้วก็จะตายในที่สุด โดยจะส่งตัวอย่างไปตรวจพิสูจน์ที่จังหวัดขอนแก่น

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือไม่ให้เกษตรกรตักปลาที่ตายทิ้งลงในแม่น้ำโขง ควรขุดหลุมฝังกลบ หรือนำไปหมักเพื่อทำน้ำหมักชีวภาพ หรือนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าดีกว่าเอาไปทิ้งเฉยๆ

ขณะที่ นายภาณุพันธ์ ธนาฤกษ์มงคล หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ปลาที่ตายในกระชังไม่ได้เกิดจากโรคระบาด ยังไม่สามารถประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แต่ต้องรอผลตรวจทั้งตัวปลาและน้ำอีกครั้งจึงจะสรุปได้ หากผลออกมาว่าเกิดจากโรคระบาดจึงจะประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป