ระยอง - รมว.ทรัพย์ฯ และคณะติดตามการรื้อรีสอร์ตเสม็ด 3 หลัง ลงพื้นที่กำกับการรื้อถอน หลังศาลพิพากษาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด
วันนี้ (25 ส.ค.) นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายบุญชอบ สุทธิมนัสวงศ์ อธิบดีกรมป่าไม้ นายสุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด นายภุชงค์ สฤษฎีชัยวงษ์ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและคณะ พร้อมด้วย นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เดินทางไปดูเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กว่า 100 นาย เข้ารื้อสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ต 3 หลัง มุกเสม็ด พลอยเสม็ด และอันซีน หมู่ 4 ต.เพ อ.เมืองระยอง เพื่อ ติดตามการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 22 แห่งชาติ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2540
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2546 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ได้จับกุมเจ้าของผู้ประกอบการรีสอร์ตมุกเสม็ด อันซีน และพลอยเสม็ด ดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด และให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ
ต่อมา เจ้าของผู้ประกอบการได้อุทธรณ์คำสั่งหัวหน้าอุทยานฯ ส่งให้สำนักอุทยานแห่งชาติพิจารณาคำอุทธรณ์ และขอขยายระยะเวลาการรื้อถอนในปี พ.ศ.2555 ในปีเดียวกัน กรมอุทยานฯ เห็นชอบให้ผู้ประกอบการรื้อถอนเอง แต่ผู้ประกอบการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองระยองระยะที่สอง และศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราว
ด้านนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองเร่งรัดตรวจสอบ และให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ที่บุกรุกสร้างสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ตบนเกาะเสม็ดทั้ง 3 หลัง คณะกรรมการกลั่นกรองชุดนี้ ประกอบด้วย นายวิจารย์ สิมาฉายา รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน และผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย อัยการ กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเอสไอ เอ็นจีโอ และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร คณะกรรมการมีมติให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างมุกเสม็ด อันซีน และพลอยเสม็ด ที่ปลูกสร้างรุกล้ำอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด
และในวันนี้ จึงได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อมาเป็นสักขีพยาน โดยเราใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 22 ผู้ที่รุกล้ำปลูกสร้างเขตอุทยานแห่งชาติฯ มีอำนาจในการรื้อถอน หรือสั่งให้เจ้าของผู้ประกอบการรื้อถอน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2546 เราได้จับกุมดำเนินคดี สั่งให้มีการรื้อถอนตั้งแต่ พ.ศ.2546 ปรากฏว่า ผู้ประกอบการได้มีการอุทธรณ์ เรื่องได้ยืดเยื้อมานานจนถึงวันนี้ และสุดท้ายได้มีการร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว และศาลปกครองได้ยกคำร้องไม่คุ้มครองชั่วคราว จึงถือว่าคดีเป็นที่สิ้นสุด วันนี้ได้ดำเนินการทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
นายวิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการชุดนี้จะมีการประชุม โดยตนได้ให้หลักการโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะคณะกรรมการทุกท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด หลักจากนี้ไปเรื่องใดที่ผิดกฎหมาย และเป็นเรื่องเก่าที่สุดจะนำขึ้นมาพิจารณาก่อน และค่อยไล่ลำดับไป ส่วนระยะเวลาการรื้อถอนรีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 15-20 วันการรื้อถอนคงเสร็จสิ้น