xs
xsm
sm
md
lg

ดับสยอง! หนุ่มก่อสร้างเมาเดินข้างถนน รถชนขาด 2 ท่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดับสยอง ! หนุ่มก่อสร้างเมาเดินข้างถนนถูกรถชนร่างขาด 2 ท่อน บริเวณ หลัก กม. ที่ 17 – 18 ถนนสายศรีสะเกษ – วังหิน ปากทางเข้าบ้านธาตุ ต.ธาตุ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ  วันนี้ ( 25 ส.ค.)
ศรีสะเกษ- ดับสยอง! หนุ่มก่อสร้างเมาเดินข้างถนนถูกรถชนร่างขาด 2 ท่อน บนถ.สายศรีสะเกษ-วังหิน อ.วังหิน ศรีสะเกษ ตำรวจเร่งสืบสวนหารถคันก่อเหตุมาดำเนินคดีตาม กม.

เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (25 ส.ค.) ร.ต.ท.สัญญา จันโท ร้อยเวรสอบสวน สภ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนถูกรถยนต์ชนเสียชีวิต ที่บริเวณหลัก กม.ที่ 17-18 ถนนสายศรีสะเกษ-วังหิน ปากทางเข้าบ้านธาตุ ต.ธาตุ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบศพชายคนหนึ่งสภาพถูกรถชนร่างกายแหลกเละ ขาดเป็น 2 ท่อน อยู่บริเวณข้างถนน โดยร่างกายท่อนล่างขาดกระเด็นไปตกอยู่ห่างจากท่อนบนประมาณ 10 เมตร ไม่สวมเสื้อ นุ่งเพียงกางเกงขาสั้น 1 ตัว กลางหน้าอกมีลายสักเป็นรูปดอกไม้ขนาดใหญ่ ใกล้กันพบเศษชิ้นส่วนรถยนต์ลักษณะคล้ายกันชนหน้า และชิ้นส่วนบังลมหน้าต่างรถยนต์ มีอักษรภาษาอังกฤษคำว่า “Dmax” ติดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมามี นายบุญเลิศ นิลพัตร์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.14 บ้านทางสายใต้ ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ มาดูศพผู้เสียชีวิต และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ตายเป็นพี่ชายของตน

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายบุญเลิศ ให้การว่า ผู้ตายชื่อ นายวิโรจน์ นิลพัตร์ อายุ 44 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ อ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี และได้มาอาศัยอยู่กับตนโดยมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง แต่มีอาการทางประสาท โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) นายวิโรจน์ ได้เบิกเงินค่าแรงรับจ้างก่อสร้างมา 200 บาท และซื้อเหล้าขาวมานั่งดื่มอยู่กับเพื่อนจนเมา

จากนั้นพอช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันนี้ (25 ส.ค.) นายวิโรจน์ ได้เดินออกมาตามลำพัง เนื่องจากเมื่อดื่มเหล้าทุกครั้ง นายวิโรจน์ จะมีอาการทางประสาท และคาดว่าถูกรถชนล้มลง จากนั้นอาจมีรถที่วิ่งผ่านไปมาด้วยความเร็วสูงเหยียบซ้ำทำให้ร่างกายแหลกเละขาดเป็น 2 ท่อนซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งสืบสวนหารถยนต์คันที่ก่อเหตุเฉี่ยวชน นายวิโรจน์ จนเสียชีวิตมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น