เศร้าใจ! เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการามยอมถอย บิณฑบาตขอผู้ประกอบการแพล่องย้ายแพไม่ได้

กาญจนบุรี - เศร้าใจ! เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ยอมถอยเหตุบิณฑบาตขอผู้ประกอบการแพล่องติดกับสะพานไม้เคลื่อนย้ายแพออกห่าง เพราะจำเป็นต้องเลื่อนแพลูกบวบออกไปอีก 10 เมตร เพื่อสะดวกต่อการซ่อมแซมสะพานไม้ในอนาคต แต่ผู้ประกอบการไม่ฟังอ้างกลัวกระทบรายได้

จากกรณีที่ชาวบ้าน และหน่วยงานภาครัฐ ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างสะพานลูกบวบข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เชื่อมต่อหมู่บ้านมอญ หมู่ 2 และบ้านไหล่น้ำ หมู่ 3 อ.สังขละบุรี ให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาหาสู่กันได้

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (23 ส.ค.) ได้มีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากสะพานลูกบวบสร้างชิดกับสะพานไม้มากเกินไป ห่างเพียงแค่ 5 เมตร หากไม่ขยับแพลูกบวบออกมาจะเป็นอุปสรรคต่อการซ่อมแซมสะพานไม้ในในอนาคต ดังนั้น จึงมีการประชุมหารือกันระหว่างพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม นายสถิต วิทิตยนตะการ ปลัดอาวุโสอำเภอสังขละบุรี นายปกรณ์ น้อยเกตุ นายกเทศมนตรีตำบลวังกะ นายมานพ เกิดแดง ปลัดเทศบาลตำบลวังกะ นายพัฒนา ราชกรม ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลวังกะ น.ส.รัชนี จำปีขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และผู้ประกอบการแพล่อง ที่ตั้งอยู่ฝั่งหมู่ 3 ประมาณ 3 ราย มีแพรวมกัน 15 หลัง รวมทั้งฝั่งมอญ หมู่ 2 เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา

ซึ่งมีมติว่า ให้เคลื่อนย้ายแพลูกบวบออกมาให้ห่างจากสะพานไม้ (สะพานมอญ) 15 เมตร และให้เคลื่อนย้ายแพล่องที่มีอยู่ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำออกไปจากจุดเดิม ให้ห่างจากแพลูกบวบฝั่งละ 6 เมตร ซึ่งพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ ได้นัดหมายให้ชาวบ้านหมู่ 2 หรือหมู่บ้านมอญ ทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อรวมพลังกันเคลื่อนย้ายแพลูกบวบออกไปให้ห่างจากสะพานไม้ โดยชาวบ้านฝั่งมอญมาพร้อมหน้ากันที่บริเวณสะพานลูกบวบกว่า 200 คน ตั้งแต่ช่วงเช้า

แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายสะพานลูกบวบได้ เนื่องจากผู้ประกอบการแพล่องที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวฝั่งไทยซึ่งอยู่ติดกับสะพานไม้ ไม่ยอมย้ายแพออกไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาใช้บริการ เพราะต้องย้ายแพห่างออกไปมาก จนเกิดการถกเถียงกันระหว่างผู้ประกอบการแพล่องด้วยกันเอง ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด อีกทั้งชาวบ้านจำนวนมากที่มารอการเคลื่อนย้ายแพลูกบวบก็นั่งรอนานหลายชั่วโมง แต่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ จนกระทั่งชาวบ้านฝั่งมอญเริ่มเหงุดหงิดจึงจะรวมตัวกันมาที่แพล่องฝั่งไทยเพื่อต่อว่า

เมื่อเจ้าหน้าที่ฝั่งมอญทราบจึงได้ห้ามปรามเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกัน ระหว่างชาวบ้านกับผู้ประกอบการแพล่องฝั่งไทย ซึ่งทุกคนก็เชื่อแต่โดยดี และนั่งรอการเคลื่อนย้ายอยู่ที่จุดเดิม

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แม้พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการว่า อาตมาขอบิณฑบาต ขอให้ทุกคนช่วยกันเสียสละคนละเล็กละน้อยเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และเป็นการเสียสละแค่ชั่วคราวเท่านั้น หากสะพานไม้ซ่อมบำรุงเสร็จเมื่อไหร่ ทุกคนก็ย้ายกลับเข้าจุดเดิม และทำมาหากินได้ตามปกติ

ข่าวแจ้งว่า แม้พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ จะพยายามอธิบายแต่ผู้ประกอบการก็ไม่ยอม ดังนั้น พระมหาสุชาติ จึงตัดสินใจว่าให้เคลื่อนย้ายแพลูกบวบออกมาเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐเองก็เห็นด้วย จากนั้นจึงเดินทางกลับ โดยให้ชาวบ้านเคลื่อนย้ายในทันที ซึ่งการถกเถียงกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการในวันนี้สร้างความอเนจอนาถใจให้แก่ประชาชนที่เดินทางมารวมพลังเพื่อเคลื่อนย้ายสะพานลูกบวบเป็นอย่างมาก บางรายถึงกับบ่นออกมาว่า ทำไมถึงเห็นแก่ตัวอย่างนี้ ขนาดเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการามขอบิณฑบาต เพื่อเห็นแก่ส่วนรวมยังไม่ยอม บางรายบ่นว่าในเมื่อผู้ประกอบการอ้างว่าได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าอย่างถูกต้อง ก็ต้องให้กรมเจ้าท่ามาตรวจสอบว่า การจอดแพต้องจอดห่างจากสะพานกี่เมตร

ข่าวแจ้งว่า ผลการเจรจาครั้งนี้สรุปว่าเนื่องจากผู้ประกอบการยึดเอาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่มองเห็นแก่ส่วนรวม จึงส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการขยับแพลูกบวบ จากเดิมสะพานลูกบวบตั้งอยู่ห่างจากตัวสะพานไม้ 5 เมตร ได้ขยับห่างออกไปได้เพียง 4 เมตร รวมเป็น 9 เมตร จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ระยะ 15 เมตร

ล่าสุด เจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลตำบลวังกะ ได้นำเจ้าหน้าที่มาสำรวจระยะของสะพานลูกบวบ พบว่า ยาว 240 เมตร ช่องทางเดินกว้าง 2 เมตร ทุ่นลูกบวบลอยน้ำกว้าง 7.5 เมตร ระยะห่างลูกบวบ 1-1.50 เมตร จำนวนทุ่นลูกบวบ 120 ทุ่น ซึ่งจะต้องเสริมทุ่น และสะพานออกไปอีกตามระดับขึ้นลงของน้ำ