ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจ-ป.ป.ส.ระดมกำลังกว่า 800 นาย ปฏิบัติการ “ศรีวิชัย” ปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด 3 พื้นที่ 28 เป้าหมาย ยึดทรัพย์นักค้ายารายใหญ่ที่เชียงใหม่ พร้อมจับกุมเครือข่ายลุ่มลีซอ ยาเสพติด-ทรัพย์สินเพียบ “พงศพัศ” คาดทรัพย์สินที่ยึดได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน เตรียมขยายผลไล่ล่าเครือข่ายต่อ ขู่ใครเก็บทรัพย์สินให้ติดคุกด้วยแน่
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 นำของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด รวมมูลค่าเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 37 ล้านบาท มาแสดงต่อสื่อมวลชน ในการแถลงข่าวปฏิบัติการปราบปรามนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ “ปฏิบัติการศรีวิชัย ครั้งที่ 1/2556” ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาในวันนี้ (23 ส.ค.)
ปฏิบัติการดังกล่าวซึ่งมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะเป็นประธาน ได้ทำพิธีเปิดแผนปฏิบัติการและปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ ซึ่งผสานกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 800 คน ออกปฏิบัติการจับกุมและปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา เมื่อเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา โดยชุดปฏิบัติการทั้งหมดได้ออกปฏิบัติการพร้อมกันในพื้นที่ 3 จุด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 28 เป้าหมาย ก่อนที่จะนำของกลางและทรัพย์สินต่างๆ ที่สามารถตรวจยึดได้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
การปฏิบัติการตามแผนปฏิบัติศรีวิชัยในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามแผนกวาดล้างยาเสพติด ทั้งการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม และตรวจสอบทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการในการและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมีเป้าหมายกวาดล้างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญตานโยบายของรัฐบาล
หลังจากสืบทราบว่ากลุ่มนักการค้ายาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายมีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่าย แล้วนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติดไปแปรเป็นทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนทำธุรกิจต่างๆ เพื่ออำพรางที่มาและการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผลการปฏิบัติงานในครั้งนี้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดและของกลางได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถตรวจยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ค่ายาเสพติด รวมมูลค่าเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 37 ล้านบาท
ส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการในวันนี้ ชุดปฏิบัติการได้เข้าทำการตรวจสอบบ้านเลขที่ 99/46 หมู่บ้านร่มเย็นเพลส เฟส 2 ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นของนายสุรเดช หย่าจา นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่จะทำการตรวจยึดบ้านหลังดังกล่าว พร้อมบ้านใกล้เคียงในหมู่บ้านเดียวกันอีก 2 หลัง พร้อมอาวะปืนและเครื่องกระสุน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท หลังจากสามารถจับกุมนายสุรเดชได้เมื่อปีที่ผ่านมา และจากการขยายผลพบว่ามีการนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาซื้อทรัพย์สินโดยใช้ชื่อของญาติพี่น้องเป็นผู้ครอบครอง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหานักค้ายาเสพติดกลุ่มชาวเขาเผ่าลีซอ บ้านเสาแดง ตำบลแจ่มหลวง อำเภอกัลยานิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ รวม 6 ราย หลังจากสืบทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวนำยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนจะรับเงินค่ายาเสพติดผ่านการดอนเข้าบัญชีของบุคคลที่รับจ้างเปิดบัญชีให้กับทางเครือข่าย ก่อนจะถอนเงินจากบัญชีเหล่านี้มาซื้อทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ หรือนำไปลงทุนทำธุรกิจต่างๆ เพื่ออำพรางที่มา ซึ่งจากการติดตามสืบสวนของเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมสมาชิกของเครือข่ายดังกล่าวได้หลายครั้ง และนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 12 ราย
การจับกุมตามปฏิบัติการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มชาวเขาเผ่าลีซอได้รวม 6 ราย ประกอบด้วย นายนพรัตน์ เสาแดงกิตติกุล, นายวรพจน์ แสนหลวง, นางพัชรกัณญ์ หรือกชอร หรือวิภาวรรณ์ สุขไกร, นายปรีชา เกิดผล, นายชิดชัย หอมธานี และ น.ส.เกศสุมารินทร์ เกิดผล พร้อมด้วยของกลางซึ่งมีทั้งยาเสพติดและทรัพย์สินอีกหลายรายกการ
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า คาดว่าทรัพย์สินที่สามารถตรวจยึดได้จากปฏิบัติการในวันนี้จะมีมูลค่ารวมมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเดินหน้าตรวจสอบทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติดที่ยังมีผู้ครอบครองแทนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากพบว่าบุคคลใดมีความเชื่อมโยงและมีส่วนรู้เห็นในการถือครองทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานะสมคบคิดด้วย
