ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านบางปะกงข้องใจเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บเหง้าปาล์มดั๊บเบิ้ลเอ ร้องแจงให้ชัดเปรียบเหตุการณ์ปะทุคล้ายกันกับเมื่อกว่า 3 ปีก่อน ที่เรือโป๊ะบรรทุกถ่านหินคุกรุ่นขึ้นเองขณะเข้าจอดเทียบท่าในพื้นที่แห่งเดียวกันนี้ เผยควันไฟจากการปะทุเมื่อช่วงเช้าส่งผลทำชาวบ้านหลายรายแสบตา หวั่นแอบแฝงเชื้อถ่านหินบดผสมปนร่วมในเนื้อเดียวกันกับเหง้าปาล์ม ก่อนป้อนเข้าสู่เตาเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล
วันนี้ (21 ส.ค.) นายวิรัตน์ เผ่านักรบ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.10 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุเพลิงคุกรุ่นลุกไหม้ หรือเกิดการสันดาปทำปฏิกิริยากันเองของเชื้อไฟ ที่ทางบริษัทดั๊บเบิ้ลเอ ในเครือกลุ่มบริษัทเกษตรรุ่งเรืองพืชผล จำกัด เตรียมนำเอามาป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นโรงงานไฟฟ้าระบบภายในของบริษัท ขนาดกำลังการผลิต 12 เมกะวัตต์ ว่า ชาวบ้านยังคงข้องใจถึงสาเหตุของการลุกไหม้ที่เกิดขึ้นเองดังกล่าวว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
และหากเปรียบเทียบกับการเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือโป๊ะบรรทุกถ่านหิน ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ในบริเวณท่าเทียบเรือเดียวกันนี้ ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก จนชาวบ้านหวั่นเกรงว่าเชื้อไฟที่เกิดการปะทุลุกไหม้ดังกล่าวนี้จะเป็นชนิดเดียวกัน หรืออาจจะมีส่วนผสมของถ่านหินบดปนอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะหากเป็นเพียงแค่เหง้าของผลปาล์มซึ่งเป็นซากพืชนั้น ไม่น่าจะเกิดการสันดาป หรือลุกไหม้ขึ้นเองได้ แต่ถ้าเป็นถ่านหินนั้นสามารถลุกไหม้ขึ้นเองได้ เพราะเคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้ว
จึงอยากให้ทางดั๊บเบิ้ลเอ ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่ชาวบ้านทราบถึงส่าเหตุที่แท้จริงเพื่อที่จะได้หาทางป้องกันไว้ก่อน เพราะขณะนี้มีชาวบ้านบางส่วนรู้สึกแสบตากันบ้างแล้วจากการที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันไฟเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะที่นางอุษา คีรีกิ้น อายุ 55 ปี ชาวบ้านในตลาดเขตเทศบาลตำบลบางปะกง กล่าวว่า รู้สึกตกใจกลัวต่อเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้านี้เช่นกัน หลังมองเห็นเปลวเพลิงที่มีกลุ่มควันดำทะมึนพวยพุ่งออกมาเหนือท้องฟ้าเมื่อช่วงเช้า เพราะเกรงว่าเพลิงจะลุกลาม หรือถูกกระแสลมพัดปลิวเข้าสู่ตัวตลาด อ.บางปะกง ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น และเกิดเหตุเพลิงไหม้ไปทั่วทั้งตลาดได้ เพราะชุมชนแห่งนี้เป็นลักษณะบ้านไม้ที่ปลูกสร้างต่อเนื่องติดกันจนเป็นชุมชนขนาดใหญ่