นครพนม - งามหน้า อบต.กุดตาไก้ ใช้รถยนต์ อบต.ขนไม้เถื่อนผิดกฎหมายส่งให้ปลัด อบต. อ้างเป็นไม้ในที่สาธารณะ ทั้งไม่รู้ข้อกฎหมาย ขณะที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีข้อหาหนักผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ตัดไม้หวงห้ามในที่สาธารณะ
วันนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.ท.โกเศรษฐ์ ค่ำคูณ รักษาการสารวัตรใหญ่ สภ.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตำรวจร่วมกับสำนักจัดการทรัพยาการป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม และชุดป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ตรวจยึดรถกระบะมาสด้า 4ประตู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กข 2971 นครพนม ซึ่งเป็นรถยนต์ราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กุตาไก้ ที่มีสัญลักษณ์ของ อบต.ติดที่ประตูทั้ง 2 ด้าน ภายในกระบะบรรทุกไม้แปรรูป ประกอบด้วย ไม้รกฟ้าหรือไม้เชือก 6 แผ่น ยาว 158 เซนติเมตร กว้าง 55 เซนติเมตร ไม้ฉำฉาท่อนและแผ่น 27 ท่อนยาวประมาณ 1-2 เมตร ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม
ทั้งนี้ ชาวบ้านแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบขนไม้โดยผิดกฎหมาย ก่อนตรวจยึดได้บริเวณถนนโพนสวาง-หนองดินดำ ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก มีนายนวล อินทร์ธง อายุ 54 ปี อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อบต.กุตาไก้ เป็นคนขับ
จากการสอบสวนทราบว่า ไม้ดังกล่าวจะขนไปเก็บรักษาเพื่อใช้ประโยชน์ในบ้านของนายก่อกษาปณ์ อุปถัมภ์ ปลัด อบต.กุตาไก้ แต่ไม่มีเอกสารแสดงที่มาตามกฎหมาย
นายบุญเที่ยง จันใด หัวหน้าชุดป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า กล่าวว่า หลังเข้าตรวจสอบที่มาของไม้ ร่วมกับนายทรัพย์ทวี คำสุข นายก อบต.กุตาไก้ นายก่อกษาปณ์ อุปถัมภ์ ปลัด อบต.กุตาไก้ พบว่าไม้ดังกล่าตัดและแปรรูปมาจากพื้นที่สาธารณประโยชน์ของ อบต.ที่ตัดโค่นออกเพื่อปรับพื้นที่ทำตลาดชุมชน โดยยังพบตอไม้ 4 ต้น ประกอบด้วย ต้นรกฟ้า 1 ต้น ต้นมะค้อ 1 ต้น ต้นมะค่าแต้ 1 ต้น และต้นฉำฉา 1 ต้น มีอายุหลายสิบปี และมีลำต้นขนาดใหญ่สูงกว่า 10 เมตร ทั้งหมดเป็นไม้หวงห้ามที่ต้องขออนุญาตก่อนทำการตัดแปรรูปทุกกรณี นอกจากอยู่ในพื้นที่ น.ส.3 แต่ไม่พบเอกสารขออนุญาต เพราะเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
สำหรับไม้บางส่วน นายก่อกษาปณ์ได้ขนย้ายไปยังบ้านพั อ้างว่าเป็นไม้ที่อยู่ในการดูแลของ อบต.กุตาไก้ จึงเชื่อว่าสามารถทำได้ และสอบถามชาวบ้านแล้วว่าไม่มีใครนำไปใช้ประโยชน์ จึงจะนำไปเก็บไว้ใช้ประโยชน์ที่บ้าน โดยให้เจ้าหน้าที่ใช้รถของทางราชการขนย้าย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
นายสุรเดช อัคราช ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยาการป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม กล่าวว่า หากมีความแน่ชัดว่าไม่ดำเนินการตามกฎหมาย จะต้องตรวจยึดไม้ทั้งหมด รวมทั้งตอไม้ รถยนต์ที่ใช้กระทำความผิด ผู้กระทำผิด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หากมีเอกสารหลักฐานมายืนยันก็สามารถส่งคืนของกลางได้ภายหลัง