หนองคาย - นายอำเภอท่าบ่อ โต้กลุ่มขับไล่พ้นพื้นที่ ไม่เคยละทิ้งประชาชน ดูแลเต็มที่ ส่วนข้อกล่าวหาตัดต้นสักแค่ตัดแต่งให้สวยงาม ที่เหลือแต่ตอเพราะยืนต้นตายแล้ว ห่วงเป็นอันตรายช่วงลมแรง
วันนี้ (20 ส.ค.) นายอนุรักษ์ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ชี้แจงกรณีที่ถูกชุมนุมขับไล่เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า เรื่องแรกเป็นเรื่องการไม่ดูแลชาวบ้านเท่าที่ควรนั้น ขอยืนยันว่าหลังจากที่มารับตำแหน่ง ได้ทุ่มเทในการทำงานเต็มที่ ช่วยเหลือชาวบ้านมาแล้วจำนวนมาก แต่ก็ต้องยึดหลักระเบียบกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เรียบร้อยดี มีเพียงบางรายเท่านั้นที่ยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ด้วยเอกสารได้ มีเพียงพยานบุคคล จึงต้องมีการพิสูจน์ทราบกันอีกต่อไป
ส่วนเรื่องของการตัดต้นไม้ในั้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูฝน ในการประชุมประจำเดือนจึงได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ออกตรวจสอบและดูแลตัดแต่งต้นไม้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อบ้านเรือน และสถานที่ราชการ โดยเน้นการตัดแต่งเท่านั้น ไม่ได้สั่งให้ไปตัดทั้งต้น แต่อาจจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งที่ไม่เข้าใจ
ส่วนต้นสักและต้นบกที่อยู่ภายในเขตอำเภอ ได้ขอความร่วมมือจากเทศบาลตำบลโพนสาให้มาตัดและตัดแต่งกิ่งให้ โดยย้ำเสมอว่าต้นไม้ใหญ่ให้ใช้การตัดแต่งเท่านั้น ห้ามตัดโดยเด็ดขาด ส่วนที่ต้องตัดทั้งต้นนั้นเนื่องจากทางเทศบาลตำบลโพนสาเห็นว่ายืนต้นตายแล้ว หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายได้
นายอนุรักษ์กล่าวว่า ชาวบ้านที่มารวมตัวขับไล่ตนนั้น เชื่อมั่นว่าชาวท่าบ่อทุกคนมีเหตุมีผล และหลายคนพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้ทำงานต่อ ส่วนจะได้ทำงานที่อำเภอท่าบ่อต่อไปอีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาว่าเห็นควรจะดำเนินการอย่างไร
วันนี้ (20 ส.ค.) นายอนุรักษ์ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ชี้แจงกรณีที่ถูกชุมนุมขับไล่เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า เรื่องแรกเป็นเรื่องการไม่ดูแลชาวบ้านเท่าที่ควรนั้น ขอยืนยันว่าหลังจากที่มารับตำแหน่ง ได้ทุ่มเทในการทำงานเต็มที่ ช่วยเหลือชาวบ้านมาแล้วจำนวนมาก แต่ก็ต้องยึดหลักระเบียบกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เรียบร้อยดี มีเพียงบางรายเท่านั้นที่ยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ด้วยเอกสารได้ มีเพียงพยานบุคคล จึงต้องมีการพิสูจน์ทราบกันอีกต่อไป
ส่วนเรื่องของการตัดต้นไม้ในั้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูฝน ในการประชุมประจำเดือนจึงได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ออกตรวจสอบและดูแลตัดแต่งต้นไม้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อบ้านเรือน และสถานที่ราชการ โดยเน้นการตัดแต่งเท่านั้น ไม่ได้สั่งให้ไปตัดทั้งต้น แต่อาจจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งที่ไม่เข้าใจ
ส่วนต้นสักและต้นบกที่อยู่ภายในเขตอำเภอ ได้ขอความร่วมมือจากเทศบาลตำบลโพนสาให้มาตัดและตัดแต่งกิ่งให้ โดยย้ำเสมอว่าต้นไม้ใหญ่ให้ใช้การตัดแต่งเท่านั้น ห้ามตัดโดยเด็ดขาด ส่วนที่ต้องตัดทั้งต้นนั้นเนื่องจากทางเทศบาลตำบลโพนสาเห็นว่ายืนต้นตายแล้ว หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายได้
นายอนุรักษ์กล่าวว่า ชาวบ้านที่มารวมตัวขับไล่ตนนั้น เชื่อมั่นว่าชาวท่าบ่อทุกคนมีเหตุมีผล และหลายคนพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้ทำงานต่อ ส่วนจะได้ทำงานที่อำเภอท่าบ่อต่อไปอีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาว่าเห็นควรจะดำเนินการอย่างไร
