บุรีรัมย์ - ตัวแทนเกษตรกรปลูกยางพารา 5 อำเภอบุรีรัมย์ ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ ถึงรัฐบาลจี้เร่งแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำเหลือเพียง กก.ละ 70 บาทไม่คุ้มทุน ชี้ไม่ควรต่ำกว่า กก.ละ 105 บาท พร้อมขู่ไม่ได้รับคำตอบ 3 ก.ย.นี้ นัดรวมพลชาวสวนยางทั้งภาคใต้-ตะวันออก-อีสาน เคลื่อนไหวใหญ่
วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานและสักขีพยานในการเปิดซองประมูลยางก้อนถ้วย ที่ตลาดกลางยางก้อนถ้วย ต.หนองไม้งาม อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีพ่อค้าจากทั้งในและนอกพื้นที่เข้าร่วมยื่นซองประมูลจำนวน 5 ราย โดยได้ราคาประมูลยางก้อนถ้วยเกรด A อยู่ที่กิโลกรัมละ 41.01 บาท ยางก้อนถ้วยเกรด B กิโลกรัมละ 37.02 บาท แต่ยังไม่เป็นที่พอใจของเกษตรกรที่นำยางก้อนถ้วยมาซื้อขายที่ตลาดกลางดังกล่าว
ทั้งนี้ เพราะปัจจุบันทั้งยางแผ่นและยางก้อนถ้วยมีราคาต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยยางแผ่นอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท ยางก้อนถ้วยเพียงกิโลกรัมละ 32 บาทไม่อยู่ที่จุดคุ้มทุน ต่างจากปี 2554 ยางแผ่นอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท ยางก้อนถ้วยกิโลกรัมละ 68 บาท
ขณะเดียวกัน ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา 5 อำเภอ มี อ.บ้านกรวด โนนสุวรรณ โนนดินแดง ปะคำ และ อ.ละหานทราย ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ถึงรัฐบาลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ โดยราคายางแผ่นดิบไม่ควรต่ำกว่ากิโลกรัมละ 105 บาท ยางก้อนถ้วยไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางที่กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนอย่างหนักอยู่ในขณะนี้อย่างเร่งด่วนด้วย
นายอัครวัฒน์ กิตติพงษ์ภากรณ์ ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยยื่นหนังสือเรียกร้องไปหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น หากการยื่นหนังสือร้องครั้งนี้ ภายในวันที่ 3 ก.ย.นี้ยังไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจหรือไม่มีการแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้อง กลุ่มผู้ปลูกยางพาราใน จ.บุรีรัมย์จะนัดรวมตัวกับชาวสวนยางภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคอีสาน เพื่อเคลื่อนไหวประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป
ด้านนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องจากตัวแทนชาวสวนยางว่าจะนำเรื่องเสนอรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาตามที่เกษตรกรเรียกร้อง ทั้งนี้ ยอมรับว่าราคายางที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้เป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งการแก้ปัญหาระยะยาวนั้นอาจจะส่งเสริมให้มีการแปรรูปยางก้อนถ้วยให้สามารถเก็บในสต๊อกได้นานขึ้น หรือส่งเสริมปลูกพืชชนิดอื่นเพิ่มเติมจากยางพารา เพื่อแก้ปัญหาเดือดร้อนจากราคายางตกต่ำในอนาคตอีกด้วย