ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เทศบาลนครเชียงใหม่ระดมเจ้าหน้าที่บรรจุกระสอบทรายเตรียมเสริมจุดเสี่ยงทั่วเมือง หวั่นน้ำปิงเพิ่มสูงเหตุฝนตกหนัก 20-22 ส.ค. นายกเทศมนตรีแจงเน้นเสริมแขวง “กาวิละ-เม็งราย” คาดสูงไม่เกิน 4 เมตรรับมือไหว ส่วนแผนรับมือเร่งระบายออกให้ไวแทน
เทศบาลนครเชียงใหม่ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทำการบรรจุกระสอบทรายในวันนี้ โดยในเบื้องต้นได้จัดเตรียมกระสอบทรายจำนวน 50,000 ใบเพื่อจะนำไปวางตามจุดเสี่ยงต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
การระดมกำลังเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อบรรจุทรายลงในกระสอบทรายในวันนี้ (19 ส.ค. ) จัดขึ้นที่แฟลตเทศบาล ตำบลหนองหอย โดยเจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯ ได้ร่วมกันทำการบรรจุทรายลงกระสอบเพื่อเตรียมกระสอบทรายสำหรับใช้ในการวางป้องกันน้ำท่วมตามแนวลำน้ำปิงในจุดเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ของแขวงกาวิละ และแขวงเม็งรายซึ่งมีพื้นที่ต่ำกว่าแขวงอื่นๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
การดำเนินการของเทศบาลนครชียงใหม่ในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้ออกประกาศฉบับที่ 1 ในวันนี้ (19 ส.ค.) เรื่องฝนตกหนัก โดยขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม 2556 เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรี กล่าวว่า กระสอบทรายที่เทศบาลนครเชียงใหม่จัดเตรียมในครั้งนี้จะนำไปใช้ป้องกันพื้นที่บอบบางและจุดที่มีพื้นที่ต่ำต่างๆ รวมถึงตลอดสองฝั่งลำน้ำปิงในจุดที่ไม่สามารถทำพนังกั้นน้ำถาวรได้ โดยในเบื้องต้นจะบรรจุกระสอบทรายรวม 50,000 กระสอบ ส่วนการนำไปใช้ในแต่ละจุดจะเสริมกระสอบทรายมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับสภาพของพื้นที่ เชื่อว่าหลังเสริมกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงต่างๆ แล้ว หากน้ำในแม่น้ำปิงที่จุด P.1 สะพานนวรัฐสูงไม่เกิน 4 เมตร จะสามารถรับมือและป้องกันไม่ให้น้ำท่วมในพื้นที่ได้
ทั้งนี้ แผนการรับมือหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมจะมุ่งเน้นการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด เนื่องจากการกั้นไม่ให้น้ำเข้ามาในพื้นที่เลยนั้นทำได้ยาก แต่สภาพภูมิประเทศของเมืองสามารถระบายน้ำให้ออกจากพื้นที่โดยเร็วได้ นอกจากนี้ ในช่วงที่น้ำมีปริมาณมากนั้นอัตราการไหลของน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ยกตัวอย่างเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมในปี 2554 น้ำในแม่น้ำปิงไหลมากถึง 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที การขวางไม่ให้น้ำเข้ามาในพื้นที่เมืองนั้นจึงเป็นไปได้ยาก แต่สามารถบรรเทาความเสียหายด้วยการเร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำปิงโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เทศบาลฯ เป็นห่วงคือกรณีที่เกิดน้ำในแม่น้ำปิงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็เกิดน้ำท่วมขังในเขตตัวเมืองซึ่งจะทำให้การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปิงยากลำบากยิ่งขึ้น แต่ในขณะนี้ได้มีการเตรียมการเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ตัวเมือง ทั้งการเร่งขุดลอกทำความสะอาดท่อ และการเพิ่มเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วหากเกิดน้ำท่วมขัง
นายทัศนัยกล่าวด้วยว่า เทศบาลนครเชียงใหม่จะทำการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากพบว่าปริมาณน้ำที่จุดวัดระดับน้ำอื่นๆ เพิ่มจนเข้าสู่ระดับวิกฤตก็จะเร่งประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทันที อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ประชาชนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหากประเมินสถานการณ์แล้วมีแนวโน้มที่ระดับน้ำจะเพิ่มสูงควรเตรียมการขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ก่อน เนื่องจากหากจะรอให้มีการประกาศจากทางเทศบาลฯ แล้วค่อยทำการขนย้ายอาจจะไม่ทันการ นอกจากนี้ หากเกิดน้ำท่วมขอให้ประชาชนเอาสะพานไฟลงทันที เพราะเหตุน้ำท่วมเมื่อปี 2554 มีผู้เสียชีวิตหลายรายจากการที่น้ำท่วมเข้ามาในบ้านเรือนแล้วไม่เอาสะพานไฟลงทำให้ถูกไฟดูดจนเสียชีวิต