มุกดาหาร - นรข.มุกดาหารผสานกำลัง กอ.รมน.มุกดาหาร ตรวจยึดคาเรือขบวนการค้าของเถื่อนที่ลักลอบขนข้าวสารเหนียว 164 กระสอบ น้ำหนัก 8 ตัน ข้ามโขงที่ไม่ผ่านศุลกากรด้วยเรือหางยาวโดยฉวยโอกาสในช่วงน้ำโขงขึ้น ง่ายต่อการลักลอบขนทั้งส่งออกและนำเข้ามูลค่านับแสนบาท
วันนี้ (19 ส.ค.) นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.มุกดาหาร) ได้รับรายงานว่า มีการลักลอบขนข้าวสารเหนียว และน้ำตาลที่บริเวณท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหว้านน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงได้ประสาน พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร (กอ.รมน.) พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ร่วมกันวางแผนและนำกำลังออกสกัดการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายทั้งทางบกและทางน้ำไปยังบ้านหว้านน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.มุกดาหาร) ได้นำกำลังส่วนหนึ่งไปทางบก อีกส่วนนำเรือออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนริมฝั่งโขง พบเรือหางยาวบรรทุกกระสอบสีเขียวมาเต็มลำเรือวิ่งมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมาเทียบท่าที่บริเวณริมฝั่งโขงบ้านหว้านน้อย เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มก็เข้าแสดงตัวขอตรวจ พอคนขับเรือเห็นเจ้าหน้าที่ได้กระโดดลงน้ำทิ้งเรือและว่ายหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นเรือที่บรรทุกสินค้ามาเต็มลำเรือ พบกระสอบสีเขียวมีอักษรที่หน้ากระสอบว่า น้ำตาลทรายกลุ่มวัง น้ำตาลทรายขาว น้ำหนักสุทธิ 50 กิโลกรัม พอตรวจสอบภายในกระสอบพบเป็นข้าวสารเหนียวทั้งหมดจำนวน 164 กระสอบ น้ำหนักรวม 8 ตัน
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดข้าวสารเหนียวจำนวน 164 กระสอบ เรือหางยาว 1 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ 1 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 แสนบาท จากนั้นได้นำของกลางทั้งหมดส่งด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี และผู้บัญชาการกองกําลังสุรศักดิ์มนตรี ได้เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สถานีเรือมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.มุกดาหาร พร้อมกล่าวว่า ปัญหาสินค้าเกษตรที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะข้าวที่มีการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านต่างๆ ตามแนวชายแดนเข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มงวด
สำหรับมาตรการในการรับจำนำข้าวเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ ขณะเดียวกันได้มีการหารือในการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ทางทหารและตำรวจ ตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถป้องกันการลักลอบนำเข้าได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมสืบหาเจ้าของโกดังบริเวณนั้นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ต่อไป