ศรีสะเกษ - เมียสมีคำเผย หากสมีคำมามอบตัวต่อดีเอสไอจะเป็นการดีเพื่อที่จะได้เคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะที่สำนักสงฆ์ขันติธรรมวุ่นต้องหาเงินจ่ายค่าไฟฟ้ากว่า 31,000 บาท
วานนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เอ (นามสมมติ) สาวที่อ้างตัวว่าเป็นเมียของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์สำนักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า น.ส.เอกำลังเลี้ยงดูลูกชายอายุไม่ถึงขวบที่เกิดกับสามีใหม่ พร้อมทั้งทำงานบ้านไปด้วย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.น้ำเกลี้ยงมาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
น.ส.เอกล่าวว่า การที่มีข่าวว่านายวิรพลจะมาเข้ามอบตัวต่อดีเอสไอในวันที่ 14 ส.ค. 56 นั้น หากว่านายวิรพลมามอบตัวจริงตนก็เห็นว่าเป็นการดีมากที่นายวิรพลจะได้เคลียร์ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกชายของตนที่เกิดกับนายวิรพลจะได้มีพ่อเหมือนกับคนอื่นเขาเสียที และนายวิรพลจะได้มาดูแลลูกชายของตนเองด้วย
ส่วนการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทนั้น ตนมั่นใจว่าจะชนะคดีอย่างแน่นอนเนื่องจากว่า ด.ช.น. (นามสมมติ) เป็นลูกชายของนายวิรพลอย่างแท้จริง และตนพร้อมที่จะตรวจดีเอ็นเออีกครั้งเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ด.ช.น. เป็นลูกชายของนายวิรพล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า หลังจากที่มีข่าวว่านายวิรพลจะเข้ามามอบตัวต่อดีเอสไอ บรรยากาศก็ยังคงเงียบเหงา บรรดาพระสงฆ์และกรรมการวัดไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด
เนื่องจากว่าขณะนี้กรรมการวัดและชาวบ้านทุกคนที่อยู่ใกล้สำนักสงฆ์ต้องการที่จะฟื้นฟูชื่อเสียงของสำนักสงฆ์ขันติธรรมให้กลับมามีชื่อเสียงเหมือนเดิมมากกว่าที่จะไปสนใจว่าอดีตหลวงปู่เณรคำจะกลับมาหรือไม่อย่างไร
พระครูธรรมธรคำไข ประธานสงฆ์สำนักสงฆ์ขันติธรรม กล่าวว่า “ในวันที่ 14 ส.ค. 56 ซึ่งเป็นวันพระ อาตมาภาพจะหารือกับกรรมการวัดทุกคนเพื่อที่จะเตรียมการจัดงานกฐิน โดยอาตมาภาพจะเสนอแนวความคิดว่าจะขอพระราชทานผ้าไตรพระราชทานเพื่อมาทอดถวายที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม พร้อมทั้งจะขออนุญาตนำเอารูปภาพของสมเด็จพระสังฆราชมาติดตั้งแทนรูปภาพของอดีตหลวงปู่เณรคำ เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ว่าขณะนี้กำลังมีปัญหาใหญ่
เนื่องจากว่าเมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. 56 ที่ผ่านมาสำนักสงฆ์ขันติธรรมมีการจัดงานใหญ่หลายวันติดต่อกัน ทำให้ค่าใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าของสำนักสงฆ์สูงมาก โดยมีบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้าเข้ามาจำนวนเงินทั้งสิ้น 31,000 บาท ซึ่งอาตมาภาพยังไม่ทราบเลยว่าจะหาวิธีใดหาเงินมาจ่ายค่าไฟฟ้าที่มากขนาดนี้ได้”
