ร้อยเอ็ด - ผู้ปกครองนำ 6 วัยรุ่นที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ พร้อมอาวุธมีดที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นสาหัสมอบตัว ตำรวจเร่งสอบสวนสรุปสำนวนนำส่งสถานพินิจฯ ขณะที่พ่อคนถูกทำร้ายเอาเรื่องถึงที่สุด
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 11 สิงหาคม ร.ต.ท.ประยุทธ วรวัฒน์ พงส. (สบ 1) สภ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด รับแจ้งจากนายนิธิต อัคศรี อายุ 36 ปี ผู้เช่ากิจการร้านโฟกัส อินเทอร์เน็ต เลขที่ 65 บ้านหวายหลึม หมู่ 11 ต.เชียงขวัญ ว่ามีวัยรุ่น 6 คน พร้อมสปาต้า และมีดปลายแหลมครบมือพากันบุกเข้าไปในร้าน รุมทำร้ายนายบรรพต ทะนงแผลง อายุ 18 ปี จนได้รับบาดเจ็บ แต่ยังลุกขึ้นต่อสู้ ทำให้วัยรุ่น 6 คนพากันวิ่งหนีออกจากร้าน จากนั้นผู้บาดเจ็บหมดสติจึงนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด โดยนายนิธิตแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีต่อวัยรุ่นทั้ง 6 คน ที่ทำให้คอมพิวเตอร์และเก้าอี้ภายในร้านเสียหาย เป็นเงินกว่า 50,000 บาทนั้น
หลังจากชุดสืบสวน สภ.เชียงขวัญตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดในร้าน ทราบว่าวัยรุ่นทั้ง 6 คนอายุเพียง 14-17 ปี อยู่หมู่บ้านดงบัง ใกล้เคียงกับบ้านหวายหลึม จึงแจ้งให้สายสืบออกติดตามตัวแต่ไม่พบ จึงประสานกับผู้ปกครองให้นำตัวมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก หากขัดขืนไม่พามาพบจะออกหมายจับต่อไป
ล่าสุด เที่ยงวัน ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 6 คนได้นำตัวพร้อมอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ โดยระบุว่าวันเกิดเหตุเวลากลางวันวัยรุ่นบ้านหวายหลึมกลุ่มหนึ่งเข้าไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับพวกตนภายในบ้านดงบัง แล้วหลบหนีมา ซึ่งพวกตนก็ออกล่า
จนก่อนเกิดเหตุเห็นมีวัยุร่นนั่งเล่นเกมในร้านจึงเข้ามาดู ปรากฏว่าไม่มีคู่อริในร้าน แต่ด้วยความเมาจึงเกิดมีปากเสียงกันจนเกิดการรุมทำร้ายร่างกายทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะหลบหนีไป
ด้านพนักงานสอบสวนกล่าวว่า หลังจากสอบสวนปากทั้ง 6 คนในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี สอบสวนแล้วจะส่งสถานพินิจเด็กและเยาวชนเนื่องจากอายุไม่เกิน 18 ปี ขณะเดียวกันอาจแจ้งข้อหาพยายามฆ่าด้วย ซึ่งจะมีโทษหนักจำคุกถึง 10 ปีต่อไป หากรายงานแพทย์ยืนยันมาว่าผู้ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสและอาจถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งต้องรอรายงานจากแพทย์ก่อน
ขณะที่นายสมพร ทะนงแผลง และนางอนงค์ ออมไทสงค์ พ่อและแม่ของนายบรรพต ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเดินทางมาดูการมอบตัว และสอบถามสาเหตุที่ทำร้ายลูกชายจนอาการสาหัส เพราะถูกแทงใกล้หัวใจ ปอดฉีก ต้องนำเข้าห้องไอซียู และเข้าห้องผ่าตัดช่วยชีวิต และมีแผลถูกฟันที่แขนซ้ายต้องเย็บหลายเข็ม และบาดเจ็บตามลำตัว กล่าวว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกชายต้องได้รับบาดเจ็บอาการปางตาย
ซึ่งเบื้องต้นตนให้พนักงานสอบสวนทำตามหน้าที่ก่อน จากนั้นต้องดูอาการลูกชายจนให้ปากคำได้ก่อนจึงจะสอบถามสาเหตุที่ชัดเจนจากลูกชาย แล้วจึงจะตัดสินไจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งหากลูกชายตนไม่ผิดก็ยอมไม่ได้ และจะเอาเรื่องถึงที่สุด