ประจวบคีรีขันธ์ - อิทธิพลเถื่อนคุกคาม! แกนนำค้านเรือคราดหอยลาย ส่งคนรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัสบนสะพานปลา เจ้าตัวเผยก่อนหน้านี้เคยถูกข่มขู่เอาชีวิตมาแล้วหลายครั้งและมีการตั้งค่าหัวตนจาก 4 แสนบาทเพิ่มเป็น 8 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (10 ส.ค.) ร.ต.อ.ยศวริศ ทองสงโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายที่บริเวณสะพานปลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงนำกำลังไประงับเหตุพบนายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย แกนนำเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด และแกนนำต่อต้านเรือคราดหอยลาย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 3 ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้พามาสถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ก่อนไปโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บและตรวจร่างกายอย่างละเอียด
นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นำเรือประมงมายังสะพานปลาประจวบคีรีขันธ์ พร้อมแม่และลูกชายเพื่อจะนำปลาขึ้นฝั่ง เห็นมีชาวประมงกำลังจอดเรือและขนปลากันเป็นจำนวนมาก และตนได้เห็นมีกลุ่มชาวประมงเรือคราดหอยลายของเรือลาภอลังการ ที่เพิ่งถูกจับกุมล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.56 ที่ผ่านมา อยู่บนสะพานปลาด้วย เมื่อตนขึ้นฝั่งได้มีชาย 4 คน เดินเข้ามาหาจำได้ว่าชายหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวเป็นเจ้าของเรือลาภอลังการด้วย โดยชายคนหนึ่งได้ร้องท้าทายและว่าตนเองว่าหาเรื่องทำให้เรือคราดหอยถูกจับ
ตนจึงได้พูดตอบโต้ว่าเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ซึ่งในขณะที่โต้เถียงอยู่นั้นได้มีชายอีกคนเดินอ้อนมาด้านข้างและตรงเข้าต่อยตนและพร้อมกับมีชายอีกคนเข้ามารุมทำร้ายด้วย ตนตอบโต้ได้บ้าง แต่ไม่สามารถสู้แรงได้ ถูกรุมอยู่นานเกือบ 30 นาที เหตุการณ์จึงสงบลง และชายทั้ง 4 คนได้หลบหนีไป
นายปิยะ กล่าวต่อว่า มั่นใจว่าสาเหตุของการถูกทำร้ายในครั้งนี้มาจากความเจ็บแค้นที่นายปิยะ เป็นแกนนำคนสำคัญในการคัดค้านการคราดหอยลายในระยะ 5 ไมล์ทะเล ทำให้ชาวประมงจากกลุ่มเรือคราดหอยลายไม่พอใจ เพราะสูญเสียประโยชน์จากการทำธุรกิจและถูกเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดดำเนินการจับกุมดำเนินอย่างต่อเนื่องหลายคดี
โดยก่อนหน้านี้ตนถูกข่มขู่เอาชีวิตหลายครั้งและมีการตั้งค่าหัวตนจาก 4 แสนบาท เพิ่มเป็น 8 แสนบาท เนื่องจากที่ผ่านมาได้นำชาวบ้านออกมาต่อต้านเรือคราดหอยลายที่ลักลอบคราดหอยลายในเขตหวงห้ามระยะ 3 ไมล์ทะเล และสามารถต่อสู่จนขยายเขต เป็น 5 ไมล์ทะเลได้ ยิ่งทำให้กลุ่มทุนเสียประโยชน์มากขึ้นไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (10 ส.ค.) ร.ต.อ.ยศวริศ ทองสงโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายที่บริเวณสะพานปลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงนำกำลังไประงับเหตุพบนายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย แกนนำเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด และแกนนำต่อต้านเรือคราดหอยลาย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 3 ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้พามาสถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ก่อนไปโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บและตรวจร่างกายอย่างละเอียด
นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นำเรือประมงมายังสะพานปลาประจวบคีรีขันธ์ พร้อมแม่และลูกชายเพื่อจะนำปลาขึ้นฝั่ง เห็นมีชาวประมงกำลังจอดเรือและขนปลากันเป็นจำนวนมาก และตนได้เห็นมีกลุ่มชาวประมงเรือคราดหอยลายของเรือลาภอลังการ ที่เพิ่งถูกจับกุมล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.56 ที่ผ่านมา อยู่บนสะพานปลาด้วย เมื่อตนขึ้นฝั่งได้มีชาย 4 คน เดินเข้ามาหาจำได้ว่าชายหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวเป็นเจ้าของเรือลาภอลังการด้วย โดยชายคนหนึ่งได้ร้องท้าทายและว่าตนเองว่าหาเรื่องทำให้เรือคราดหอยถูกจับ
ตนจึงได้พูดตอบโต้ว่าเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ซึ่งในขณะที่โต้เถียงอยู่นั้นได้มีชายอีกคนเดินอ้อนมาด้านข้างและตรงเข้าต่อยตนและพร้อมกับมีชายอีกคนเข้ามารุมทำร้ายด้วย ตนตอบโต้ได้บ้าง แต่ไม่สามารถสู้แรงได้ ถูกรุมอยู่นานเกือบ 30 นาที เหตุการณ์จึงสงบลง และชายทั้ง 4 คนได้หลบหนีไป
นายปิยะ กล่าวต่อว่า มั่นใจว่าสาเหตุของการถูกทำร้ายในครั้งนี้มาจากความเจ็บแค้นที่นายปิยะ เป็นแกนนำคนสำคัญในการคัดค้านการคราดหอยลายในระยะ 5 ไมล์ทะเล ทำให้ชาวประมงจากกลุ่มเรือคราดหอยลายไม่พอใจ เพราะสูญเสียประโยชน์จากการทำธุรกิจและถูกเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดดำเนินการจับกุมดำเนินอย่างต่อเนื่องหลายคดี
โดยก่อนหน้านี้ตนถูกข่มขู่เอาชีวิตหลายครั้งและมีการตั้งค่าหัวตนจาก 4 แสนบาท เพิ่มเป็น 8 แสนบาท เนื่องจากที่ผ่านมาได้นำชาวบ้านออกมาต่อต้านเรือคราดหอยลายที่ลักลอบคราดหอยลายในเขตหวงห้ามระยะ 3 ไมล์ทะเล และสามารถต่อสู่จนขยายเขต เป็น 5 ไมล์ทะเลได้ ยิ่งทำให้กลุ่มทุนเสียประโยชน์มากขึ้นไปอีก