เชียงราย - มิจฉาชีพออนไลน์อาละวาดหนัก สวมรอยใช้เฟซบุ๊กเพื่อนสาวใหญ่ชาวเชียงรายหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี ขณะที่เจ้าของตัวจริงบอกไม่รู้เรื่อง ไม่เคยขอยืมเงิน
วันนี้ (7 ส.ค.) นางนัทชา กีระติสุนทร อายุ 44 ปี ภรรยานายอุดม อัศวสิริรุ่งเรือง เจ้าของอู่รุ่งเรือง เซอร์วิส เลขที่ 90/1 หมู่ 12 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าถูกมิจฉาชีพสวมรอยใช้เฟซบุ๊กของเพื่อนหลอกให้โอนเงินให้เป็นเงิน 3,000 บาท
นางนัทชากล่าวว่า ตามปกติเมื่ออยู่ที่อู่ตนจะเปิดเฟซบุ๊กเอาไว้เสมอเพื่อพูดคุยธุระ และพบปะเพื่อนฝูงที่คบหากันมานาน ซึ่งก็รวมทั้งนางมาลี กุมภัณฑ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 15 ต.บ้านต้า อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ก็อยู่ในกลุ่มเพื่อนด้วย
ต่อมาได้มีข้อความจากเฟซบุ๊กนางมาลีเข้ามาที่กล่องแชตของตน โดยแจ้งว่า “พอจะมีเงินก่อนสัก 2-3 พันป่าว ทำยังไงไม่เกิน 4 โมงวันนี้คืนให้” เมื่อสอบถาม ก็ย้ำอีกว่าจะใช้เวลาโอนเงินนานหรือไม่ ทำให้ตนเห็นใจเพื่อน และไม่กล้าถามถึงความต้องการเงินด่วน แต่ถ้าจะให้ออกไปโอนเงินเองก็ยังติดงานที่อู่อยู่ จึงโทรศัพท์ไปถึงนางโชติกา ดวงศิริ เพื่อนอีกคนที่เปิดร้านถิงถิงเครื่องครัวอยู่ใกล้กัน โอนเงินให้แทน เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งนางโชติกาก็รีบไปโอนเงินผ่านเอทีเอ็มเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี nimit หรือนิมิต เลขที่บัญชี 2512666399 เพราะคิดว่าเป็นบัญชีของนางมาลี
ตอนแรกนางโชติกาก็สงสัยว่าเหตุใดบัญชีจึงไม่ใช้ชื่อนางมาลี แต่เนื่องจากเป็นเพื่อนฝูงกันหมด และเมื่อทราบจากตนว่าเพื่อนร้อนเงินจึงรีบโอนเงินให้ เมื่อทราบว่าโอนเงินเสร็จแล้ว ก็ได้สอบถามในแชตว่าได้รับเงินแล้วหรือยังเพราะให้เพื่อนโอนเงินไปให้แล้ว ปรากฏว่าไม่มีคำตอบกลับมาอีกเลย กระทั่งมาทราบภายหลังจากนางมาลีว่าไม่เคยเล่นเฟซบุ๊กมานานแล้ว และไม่เคยขอยืมเงิน จึงตกใจมาก
ด้านนางมาลีกล่าวว่า ไม่ได้ใช้เฟซบุ๊กมานานกว่า 2 เดือนแล้ว รวมทั้งธุรกิจค้าขายโคกระบือไปต่างประเทศก็ไปได้ดี ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเงินเพียงแค่หลัก 3,000 บาท แต่เมื่อมีเพื่อนสอบถามหลังจากเกิดการโอนเงินไปแล้วหลายวัน ก็แจ้งกลับไปว่าไม่ได้ขอยืมเงิน
ซึ่งตามปกติพวกเราในกลุ่มเพื่อนก็จะใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือพีซี จึงไม่น่าจะมีคนเข้าไปแฮกเอารหัสไปได้ จึงคิดว่าน่าจะเป็นพวกมิจฉาชีพที่ทำกันเป็นขบวนการ และมีความสามารถด้านการแฮกข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุทั้งหมดได้ปรึกษากัน และสอบถามไปยังพนักงานสอบสวน ได้ความว่าสามารถสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีได้ แต่ต้องมีการแจ้งความอย่างเป็นทางการ ทำให้กลุ่มเพื่อนของนางนัทชา และนางมาลีตัดสินใจไม่แจ้งความ เพราะวงเงินน้อย เกรงว่าจะเสียเวลา และค่าคดีความ จึงตรวจสอบผ่านธนาคารที่เกี่ยวข้อง จนทราบว่าผู้ที่เปิดบัญชีชื่อนิมิต ได้เปิดบัญชีที่ จ.สุราษฎร์ธานี และที่ผ่านมามีวงเงินที่ถูกโอนเงินเข้าคราวละตั้งแต่ 500-3,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดยืนยันว่าแม้ว่าวงเงินที่ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนไปจะไม่มาก แต่ก็เกรงว่าคนอื่นที่เล่นเฟซบุ๊ก หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นจะถูกหลอกเหมือนกัน และหากวงเงินมากกว่านี้อาจได้รับผลกระทบได้ จึงขอให้สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเพื่อแจ้งเตือนคนในสังคมออนไลน์ให้ระมัดระวังอีกทางหนึ่งด้วย