จนท.แจงชาวบ้านบุรีรัมย์ผวาเสือ แค่รอยเท้า “หมาจิ้งจอก”

บุรีรัมย์ - จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ บุรีรัมย์แจงหลังลงพื้นที่ตรวจสอบละเอียดรอยเท้าสัตว์ที่ชาวบ้านผวาเป็นรอยเท้าเสือดาว จากการเปรียบเทียบรอยเท้าที่พบกับภาพถ่ายรูปพรรณสัตว์ ยันเป็นรอย “สุนัขจิ้งจอก” พร้อมเข้าไปทำความเข้าใจชาวบ้านให้หายหวาดกลัวและหาของป่าได้ตามปกติ

วันนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านบุรีรัมย์หวาดผวาหลังพบรอยเท้าสัตว์ที่เชื่อว่าเป็นเสือดาวจำนวนมากในเขตพื้นที่ป่าโคกพร่อง-โคกกุง และบริเวณทุ่งนา บ้านสามเหลี่ยม ต.หายโศก อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ จนไม่กล้าเข้าไปหาเห็ด เก็บของป่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด จ.บุรีรัมย์ได้ออกมาชี้แจงหลังลงตรวจสอบพื้นที่ที่ชาวบ้านพบรอยเท้าสัตว์ที่เชื่อว่าเป็นรอยเท้าเสือดาวดังกล่าวอย่างละเอียดอีกรอบ

นายสถาพร โพธิสาขา หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด กล่าวว่า การเข้าไปตรวจสอบครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำปูนปลาสเตอร์เทหล่อลงในรอยเท้าสัตว์ที่ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นรอยเท้าเสือ ก่อนแกะรอยนำมาเปรียบเทียบกับภาพถ่ายรูปพรรณสัตว์ในหนังสือเพื่อให้ชาวบ้านหายความคลางแคลงใจ

จากการเปรียบเทียบปรากฏว่ารอยเท้าที่พบไปคล้ายกับรอยเท้าของสุนัขจิ้งจอก จึงเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นรอยเสือดาวอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจ ต่างจากการเข้าตรวจสอบครั้งแรกซึ่งชาวบ้านที่อ้างว่าพบเห็นเสือยังอยู่ในอาการหวาดผวา หรือเกิดอาการอุปาทานยังเข้าใจว่าเป็นเสือดาวทำให้การวิเคราะห์ตรวจสอบคลาดเคลื่อน

“ยืนยันว่ารอยเท้าสัตว์ที่พบดังกล่าวไม่ใช่รอยเท้าเสือดาวอย่างแน่นอน จึงขอให้ชาวบ้านได้หายหวาดกลัว และเข้าไปเก็บเห็ดหรือหาของป่าได้ตามปกติ” นายสถาพรกล่าว

นายสถาพรกล่าวอีกว่า จากการเปรียบเทียบรอยเท้าที่หล่อกับภาพถ่ายรูปพรรณสัตว์ จะเห็นได้ว่ารอยเท้าสัตว์ที่ชาวบ้านพบที่นำไปเทหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์ปรากฏมีปลายเล็บแหลม ซึ่งแตกต่างจากรอยเท้าเสือดาวจะไม่มีกรงเล็บให้เห็น จึงมั่นใจว่ารอยเท้าสัตว์ดังกล่าวน่าจะเป็นสุนัขจิ้งจอก หรือหมาใน สอดคล้องกับที่ผู้นำชุมชนให้ข้อมูลว่าเคยเห็นสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ ประกอบกับพื้นที่ป่าดังกล่าวไม่น่าจะเป็นที่อาศัยของเสือได้ เพราะไม่มีแหล่งอาหาร ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้เข้าไปชี้แจงสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านให้หายหวาดกลัวและไปหาของป่าได้ตามปกติต่อไป