ระยอง - รมว.ทรัพย์ แจง ปตท.ใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันเกิน เป็นเพราะวันเกิดเหตุมีคลื่นสูง และน้ำมันดิบที่รั่วไหลมีจำนวนมาก พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการเจาะดูพื้นทรายชายหาดดังกล่าวว่ามีน้ำมันตกค้างหรือไม่
วันนี้ (4 ส.ค.) นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวหลังเดินทางไปที่อ่าวพร้าว รีสอร์ต ว่า การกู้วิกฤตคราบน้ำมันในวันนี้ไม่เห็นคราบน้ำมันในอ่าวพร้าวแล้ว ส่วนภาพถ่ายดาวเทียมที่เห็นเป็นฟิล์มน้ำมันเมื่อมองด้วยตาเปล่าก็ไม่เห็นแล้ว ต่อไปคงต้องมีการสำรวจเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมว่าจะมีอะไรบ้าง ส่วนกรณีที่ยังวิตกกันว่า คราบน้ำมันจะซึมลงพื้นทรายชายหาดอ่าวพร้าว ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการเจาะดูพื้นทรายชายหาดดังกล่าวว่ามีน้ำมันตกค้างหรือไม่
ส่วนกรณีบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีที.จีซี. ใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันเกินปริมาณที่ขอไว้นั้น เป็นเพราะวันเกิดเหตุมีคลื่นสูง และน้ำมันดิบที่รั่วไหลมีจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องใช้สารเคมีในการกำจัดจำนวนมากตาม ตะกอนของสารเคมีตัวนี้จะย่อยสลายไปตามกาลเวลา และไม่น่าจะมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจคงจะต้องมีการติดตามตรวจสอบกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ และจะต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวเกาะเสม็ด ต่อจากนี้ไปภาพลักษณ์ของอ่าวพร้าวที่ออกสู่สายตานักท่องเที่ยวจะต้องดีขึ้น และจะต้องไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เหตุที่เกิดขึ้นคราวนี้ถือเป็นบทเรียน และต้องพลิกวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส โดยเริ่มจากขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ ทำถนนหนทางบนเกาะเสม็ดเสียใหม่ พร้อมกับขอความร่วมมือให้ ปตท.พร้อมบริษัทในเครือมากินมาเที่ยวที่เกาะเสม็ด