บุรีรัมย์ - แก๊งโจรใจบาปทำทีขับรถ 3 คันมาเร่ขายของใช้พระสงฆ์ตามวัด พอเผลอย่องใช้มีดปลายแหลมบุกงัดกุฏิเจ้าอาวาสวัดดังบุรีรัมย์ ขโมยเงินไปกว่า 55,000 บาทหนีลอยนวล เผยเป็นเงินญาติโยมบริจาคไว้ก่อสร้างกุฏิหลังใหม่ ตร.รุดตรวจสอบพร้อมประสานสภ.ใกล้เคียงไล่ล่า
วันนี้ (4 ส.ค.) พ.ต.ท.ปรีชา อรัญญิก รองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) ฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม ร.ต.ท.ประสพ ตาประโคน ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้เข้าตรวจสอบกุฏิ พระไล มหาวีโร อายุ 78 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองปรือ ม.4 ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งว่าถูกคนร้ายบุกงัดเข้าไปขโมยเงินกว่า 55,000 บาทที่เจ้าอาวาสเก็บไว้ในกระเป๋าหนังสีน้ำตาลซ่อนไว้ใต้ที่นอน โดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ญาติโยมบริจาค และเงินที่ได้จากการทอดกฐิน ผ้าป่า ที่เก็บรวบรวมไว้ก่อสร้างกุฏิหลังใหม่
จากการตรวจสอบพบกุญแจห้องเจ้าอาวาสมีร่องรอยถูกงัดพังเสียหาย สอบถามพระสำรวย วิมล อายุ 52 ปี พระลูกวัด ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุมีพ่อค้าขับรถยนต์จำนวน 3 คันเข้ามาขายสิ่งของเครื่องใช้สำหรับพระสงฆ์ภายในวัด จากนั้นอาศัยช่วงพระกำลังเลือกดูสิ่งของอยู่ ก็สังเกตเห็นพ่อค้าคนหนึ่งรูปร่างผอมสูง ผิวดำ แดง อายุประมาณ 20-30 ปีเดินหายไปบริเวณหลังศาลาวัด เมื่อสอบถามภรรยาของพ่อค้าคนดังกล่าวที่มาขายของด้วยกันอ้างว่าสามีไปเข้าห้องน้ำ แต่เห็นหายไปนานจึงเดินไปดูก็พบชายคนดังกล่าวถือมีดปลายแหลมออกมาจากบริเวณกุฏิเจ้าอาวาส ท่าทางมีพิรุธแต่ไม่กล้าทักท้วงเพราะเกรงจะถูกทำร้าย
จากนั้นพ่อค้ากลุ่มดังกล่าวพากันขับรถออกไปจากวัด เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในกุฏิเจ้าอาวาสพบว่าประตูห้องถูกงัดพังเสียหาย และเงินที่เจ้าอาวาสซ่อนไว้ใต้ที่นอนหายไป จึงเชื่อว่าพ่อค้าคนดังกล่าวเป็นคนขโมยเงินของเจ้าอาวาส จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และเร่งติดตามตัวคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะยังหลบหนีไปไม่ไกล
ทางด้าน พระไล มหาวีโร เจ้าอาวาส บอกว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ญาติโยมบริจาค และได้มาจากกองกฐิน ผ้าป่า ที่เก็บสะสมไว้ก่อสร้างกุฏิหลังใหม่แทนหลังเดิมซึ่งมีสภาพทรุดโทรมและคับแคบ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีโจรใจบาปมาขโมย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และนำมาคืนเพื่อจะได้ก่อสร้างกุฏิให้เสร็จ
ส่วนสาเหตุที่ไม่นำเงินไปฝากธนาคารเพราะตั้งแต่บวชมากว่า 10 ปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเลย ประกอบกับไม่สะดวกที่จะไปเบิกเพราะต้องจ่ายค่าช่างและอุปกรณ์ที่มาก่อสร้างกุฏิเป็นระยะๆ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยัง สภ.ข้างเคียงเพื่อช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยเงินเจ้าอาวาส ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดภาคอีสาน เพราะจากคำให้การพระลูกวัดบอกว่าพ่อค้าที่มาขายของในวัดจะพูดภาษาอีสาน
