น่าน - ชาวนาท่าวังผา 10 ตำบลเริ่มวิตก หลังน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมขังแปลงนา-ไร่ข้าวโพด-สวนลำไยสูงกว่า 1 เมตรจนต้นข้าวอาจเน่าตายหมด บางรายต้องเร่งระบายน้ำออก แต่หลายคนได้แต่ยืนมองไม่รู้จะระบายน้ำไปทางไหน แถมเจอโคลนถมทับซ้ำ
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดน่านว่า โดยรวมวันนี้ (31 ก.ค.) เริ่มดีขึ้น ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน และน้ำป่าที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ ลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทางจังหวัดยังคงให้เฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังฝนตกหนัก-น้ำในลำน้ำต่างๆ ล้นทะลัก รวมถึงน้ำป่าที่ไหลหลาก ก็ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านหลายพื้นที่ โดยที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ขณะนี้เกษตรกรชาวนา-ชาวสวนกำลังวิตกกังวลอย่างหนัก เนื่องจากนาข้าว ข้าวโพด สวนลำไยของพวกเขาเริ่มปรากฏเค้าลางความสูญเสียให้เห็นแล้ว
นายศรีวงศ์ นาวงศ์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.2 บ.ดอนมูล ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน เล่าว่า เขามีที่นา 2 ไร่ ปลูกข้าวได้ประมาณ 3 สัปดาห์ กำลังเจริญเติบโต ไม่แข็งแรง หากปล่อยให้น้ำท่วมขังนาน โคลนที่เกาะต้นข้าวก็จะทำให้ต้นข้าวเน่าเร็ว จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำในทันที แต่ปริมาณน้ำที่มากทำให้ระบายได้เพียงบางส่วน ซึ่งก็อาจช่วยให้ต้นข้าวรอดตายได้เพียง 50% เท่านั้น
ขณะที่นางภาพ คำหว่าง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228 ม.1 บ้านสบหนอง ต.ตาลชุม อ.ท่าวังผา ชาวนาอีกรายที่มีนาข้าว 2 ไร่ อายุ 2 เดือนเศษ จมใต้น้ำมาแล้ว 2 วัน กำลังเป็นห่วงต้นข้าวที่จมน้ำอาจตายเสียหายทั้งหมด
นอกจากนี้ยังพบไร่ข้าวโพดที่ถูกน้ำ และดินโคลนทับถมใส่เริ่มเน่าตายแล้ว รวมทั้งสวนลำไยที่กำลังออกผลยังถูกน้ำท่วมขัง
ด้านเจ้าหน้าที่อำเภอท่าวังผากำลังออกเร่งสำรวจผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่การเกษตรทั้งข้าว และข้าวโพดถูกน้ำท่วมรวม 10 ตำบลกว่า 9 พันไร่ และคาดว่าจะมีพื้นที่การเกษตรเสียหายแน่นอนไม่ต่ำกว่า 6 พันไร่