กาญจนบุรี - นอภ.สังขละบุรี เผยการซ่อมสะพานหลวงพ่ออุตตมะ ต้องรอให้น้ำลด ส่วนพื้นที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ 2 ตำบล 16 หมู่บ้าน ด้าน สพป.กาญจนบุรี เขต 3 สั่งปิดโรงเรียน 3 แห่ง 2 วัน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากน้ำป่าไหลหลากพัดสะพานไม้ (สะพานมอญ) หรือสะพานหลวงพ่ออุตตมะ พังลงในแม่น้ำซองกาเลีย ระยะทาง 30-40 เมตร ทำให้ประชาชนหมู่ 2 และหมู่ 3 ต.หนองลู ไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้นั้น จากการสำรวจพบว่า ใน ต.หนองลู มีประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม 10 หมู่บ้าน และ ต.ไล่โว่ 6 หมู่บ้าน โดยจะประกาศให้ทั้ง 2 ตำบลให้เป็นเขตภัยพิบัติต่อไป
สำหรับแนวทางการซ่อมแซมสะพานหลวงพ่ออุตตมะ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะกระแสน้ำยังคงมีความรุนแรง อีกทั้งฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง ต้องรอไปจนกว่าจะถึงช่วงเดือนพฤศจิกายานหรือเดือนธันวาคม เพราะเป็นช่วงที่น้ำลด และไม่มีฝนตกซึ่งคงจะง่ายต่อการซ่อมแซมสะพาน โดยจะคงเอกลักษณ์เดิม แต่จะให้มีความแข็งแรงกว่าเดิม
พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวังวังก์วิเวการาม กล่าวว่า สำหรับสะพานแห่งนี้ ชาวมอญจะใช้เดินทางติดต่ออำเภอ และนักเรียนก็จะใช้เดินข้ามฝั่งไป-กลับโรงเรียน ทั้งยังมีความสำคัญด้านการท่องเที่ยว เพราะสะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ สร้างรายได้ให้แก่ชาวไทย และชาวมอญใน อ.สังขละบุรี ที่สำคัญ สะพานแห่งนี้ถือเป็นสายใยที่ชุมชนมอญต้องรักษา เพราะเป็นสิ่งที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างไว้
น.ส.อรัญญา เจริญหงส์ษา ชาวไทยเชื้อสายมอญ กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องใช้สะพานไม้เป็นหลักในการสัญจรเพื่อเดินทางไปทำงานทางฝั่งตัว อ.สังขละบุรี รวมทั้งเด็กนักเรียนต้องใช้สะพานแห่งนี้เดินทางข้ามไปเรียนที่โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตัวอำเภอเช่นกัน หากต้องอ้อมไปใช้สะพานปูนซีเมนต์ต้องเสียค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะซ่อมเสร็จ
“ทุกชีวิตใน อ.สังขละบุรี มีความผูกพันกับสะพานไม้แห่งนี้มาก เพราะทำให้ชาวไทย และชาวมอญไปมาหาสู่กันได้ หลังจากการท่องเที่ยวบูมขึ้น นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวที่สะพานไม้แห่งนี้เป็นหลัก ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะ เคยพูดไว้ว่า ต้องการให้สะพานไม้แห่งนี้เป็นสะพานไม้เช่นนี้ตลอดไป”
น.ส.รัชนี จำปีขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 กล่าวว่า เมื่อสะพานขาดลงก็ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน รวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย หลายคนรู้สึกเสียใจ แต่ภัยธรรมชาติสามารถเกิดขึ้นได้ เพราะปีนี้น้ำป่าไหลแรงมาก เนื่องจากฝนตกหนัก จึงพัดเอาเศษสวะมากองอยู่บริเวณเสาค้ำยันสะพาน แต่ในขณะที่เกิดวิกฤตก็มีด้านดี คือ ทำให้ชาวบ้านเกิดความรัก และหวงแหนสะพานมากขึ้นกว่าเดิม ช่วยกันกำจัดสวะให้ออกไปให้พ้นทางน้ำ
ด้านนายอธิวัฒน์ พันธ์ประชา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 กล่าวว่า ได้รับรายงานจากโรงเรียนใน อ.สังขละบุรี 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนบ้านห้วยกบ โรงเรียนบ้านห้วยมาลัย และโรงเรียนบ้านซองกาเลีย ได้มีน้ำเอ่อล้นลำห้วยซองกาเลีย เข้าท่วมบริเวณโรงเรียนได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ต้องประกาศหยุดเรียนวันที่ 29-30 กรกฎาคม
ส่วนของชุมชนได้รับผลกระทบถูกน้ำพัดพาบ้านหายไป มีนักเรียนได้รับผลกระทบหลายครอบครัว บางแห่งต้องอพยพไปอยู่ที่วัด ขณะนี้ต้องการความช่วยเหลือเป็นข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม และเสื้อผ้า ผู้มีความประสงค์จะช่วยเหลือติดต่อได้ที่กลุ่มอำนวยการ สพป.กาญจนบุรี เขต 3 โทร.0-3459-1111
ข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการวัดวังก์วิเวการาม ได้ประชุมและมีมติเพื่อหารายได้มาซื้ออุปกรณ์ หรือวัสดุที่ใช้สำหรับก่อสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ หากประชาชนที่ต้องการบริจาคเงิน สามารถโอนเงินได้ที่บัญชี วัดวังก์วิเวการาม (สะพานไม้) ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสังขละบุรี เลขที่บัญชี 6792167554
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากน้ำป่าไหลหลากพัดสะพานไม้ (สะพานมอญ) หรือสะพานหลวงพ่ออุตตมะ พังลงในแม่น้ำซองกาเลีย ระยะทาง 30-40 เมตร ทำให้ประชาชนหมู่ 2 และหมู่ 3 ต.หนองลู ไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้นั้น จากการสำรวจพบว่า ใน ต.หนองลู มีประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม 10 หมู่บ้าน และ ต.ไล่โว่ 6 หมู่บ้าน โดยจะประกาศให้ทั้ง 2 ตำบลให้เป็นเขตภัยพิบัติต่อไป
สำหรับแนวทางการซ่อมแซมสะพานหลวงพ่ออุตตมะ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะกระแสน้ำยังคงมีความรุนแรง อีกทั้งฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง ต้องรอไปจนกว่าจะถึงช่วงเดือนพฤศจิกายานหรือเดือนธันวาคม เพราะเป็นช่วงที่น้ำลด และไม่มีฝนตกซึ่งคงจะง่ายต่อการซ่อมแซมสะพาน โดยจะคงเอกลักษณ์เดิม แต่จะให้มีความแข็งแรงกว่าเดิม
พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวังวังก์วิเวการาม กล่าวว่า สำหรับสะพานแห่งนี้ ชาวมอญจะใช้เดินทางติดต่ออำเภอ และนักเรียนก็จะใช้เดินข้ามฝั่งไป-กลับโรงเรียน ทั้งยังมีความสำคัญด้านการท่องเที่ยว เพราะสะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ สร้างรายได้ให้แก่ชาวไทย และชาวมอญใน อ.สังขละบุรี ที่สำคัญ สะพานแห่งนี้ถือเป็นสายใยที่ชุมชนมอญต้องรักษา เพราะเป็นสิ่งที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างไว้
น.ส.อรัญญา เจริญหงส์ษา ชาวไทยเชื้อสายมอญ กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องใช้สะพานไม้เป็นหลักในการสัญจรเพื่อเดินทางไปทำงานทางฝั่งตัว อ.สังขละบุรี รวมทั้งเด็กนักเรียนต้องใช้สะพานแห่งนี้เดินทางข้ามไปเรียนที่โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตัวอำเภอเช่นกัน หากต้องอ้อมไปใช้สะพานปูนซีเมนต์ต้องเสียค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะซ่อมเสร็จ
“ทุกชีวิตใน อ.สังขละบุรี มีความผูกพันกับสะพานไม้แห่งนี้มาก เพราะทำให้ชาวไทย และชาวมอญไปมาหาสู่กันได้ หลังจากการท่องเที่ยวบูมขึ้น นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวที่สะพานไม้แห่งนี้เป็นหลัก ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะ เคยพูดไว้ว่า ต้องการให้สะพานไม้แห่งนี้เป็นสะพานไม้เช่นนี้ตลอดไป”
น.ส.รัชนี จำปีขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 กล่าวว่า เมื่อสะพานขาดลงก็ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน รวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย หลายคนรู้สึกเสียใจ แต่ภัยธรรมชาติสามารถเกิดขึ้นได้ เพราะปีนี้น้ำป่าไหลแรงมาก เนื่องจากฝนตกหนัก จึงพัดเอาเศษสวะมากองอยู่บริเวณเสาค้ำยันสะพาน แต่ในขณะที่เกิดวิกฤตก็มีด้านดี คือ ทำให้ชาวบ้านเกิดความรัก และหวงแหนสะพานมากขึ้นกว่าเดิม ช่วยกันกำจัดสวะให้ออกไปให้พ้นทางน้ำ
ด้านนายอธิวัฒน์ พันธ์ประชา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 กล่าวว่า ได้รับรายงานจากโรงเรียนใน อ.สังขละบุรี 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนบ้านห้วยกบ โรงเรียนบ้านห้วยมาลัย และโรงเรียนบ้านซองกาเลีย ได้มีน้ำเอ่อล้นลำห้วยซองกาเลีย เข้าท่วมบริเวณโรงเรียนได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ต้องประกาศหยุดเรียนวันที่ 29-30 กรกฎาคม
ส่วนของชุมชนได้รับผลกระทบถูกน้ำพัดพาบ้านหายไป มีนักเรียนได้รับผลกระทบหลายครอบครัว บางแห่งต้องอพยพไปอยู่ที่วัด ขณะนี้ต้องการความช่วยเหลือเป็นข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม และเสื้อผ้า ผู้มีความประสงค์จะช่วยเหลือติดต่อได้ที่กลุ่มอำนวยการ สพป.กาญจนบุรี เขต 3 โทร.0-3459-1111
ข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการวัดวังก์วิเวการาม ได้ประชุมและมีมติเพื่อหารายได้มาซื้ออุปกรณ์ หรือวัสดุที่ใช้สำหรับก่อสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ หากประชาชนที่ต้องการบริจาคเงิน สามารถโอนเงินได้ที่บัญชี วัดวังก์วิเวการาม (สะพานไม้) ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสังขละบุรี เลขที่บัญชี 6792167554