xs
xsm
sm
md
lg

คณะอนุฯ พัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบังหารือเร่งเยียวยาชาวบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสนธิ   คชวัฒน์  เลขานุการและอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา
ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง เร่งหารือเยียวยาชาวบ้านรอบแหลมฉบังที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 1-2 พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานชาวบ้านในระดับปริญญาตรี เร่งโครงการพัฒนาสวนสุขภาพ 50 ไร่

วันนี้ (29 ก.ค.) นายสนธิ คชวัฒน์ อนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ในฐานะประธานอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานฯ ในการเยี่ยวยาประชาชนที่อยู่รอบท่าเรือแหลมฉบังหลังจากได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างท่าเรือเฟส 1-2

นายสนธิ กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมานั้นการดำเนินการต่างๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังล่าช้า จนชาวบ้านทนไหวต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยังสมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย เพราะเกรงว่าท่าเรือแหลมฉบังจะดำเนินการขยายท่าเรือเฟส 3 ต่อ

สำหรับการหารือกันในวันนี้ ได้มีตัวแทนจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เทศบาลนครแหลมฉบัง และท่าเรือแหลมฉบัง โดยได้มีการหารือในเรื่องของหลักการโครงการ หรือกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม ของท่าเรือแหลมฉบังต่อชุมชน (CSR) โดยต้องมีหลักการ ดังนี้ 1.ควรเป็นโครงการที่อยู่ในความต้องการของชุมชน และภาคประชาชน 2.เป็นโครงการเพื่อประโยชน์สาธารณะส่วนรวม ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว 3.เป็นโครงการที่อยู่อย่างยั่งยืน และต่อเนื่องคู่ชุมชน 4.ต้องเป็นโครงการที่ประชาชนเป็นผู้คิดทำ และได้รับประโยชน์จากกิจกรรมดังกล่าว

ส่วนลักษณะของโครงการจะต้อง มี 1.กิจกรรม หรือโครงการที่สร้างอาชีพรายได้ต่อชุมชน 2.เกี่ยวข้องกับการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่ 3.สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณี และลักษณะดั้งเดิมของท้องถิ่น 4.คุณภาพชีวิต สุขภาพอนามัยของชุมชนท้องถิ่น 5.เกี่ยวข้องกับศาสนา จิตใจ ความเชื่อของชุมชนในท้องถิ่น 6.ส่งเสริมให้ประชาชนท้องถิ่นมาทำประโยชน์ร่วมกัน 7.เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยทั้ง 3 ฝ่ายคือ เทศบาลนครแหลมฉบัง ประชาชน และท่าเรือแหลมฉบัง

ในขณะนี้ช่วยเหลือแบ่งออกมาเป็น 1.ตั้งศูนย์การเรียนรู้ประมงพื้นที่บ้าน 2.สหกรณ์ชุมชน 3.โครงการเก็บขยะชายหาด 4.พัฒนาเกาะนกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว 5.โครงการพี่สอนน้อง ปลุกจิตสำนึกรักและหวงแหนคุณค่าของชุมชน 6.โครงการถังบำบัดน้ำเสียในชุมชน 7.มอบทุนการศึกษาเด็กทุกโรงเรียน

8.สนับสนุนเยาวชนรักในการเล่นดนตรี เพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด 9.โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ 10.โครงการปรับปรุงสนามกีฬา ปรับภูมิทัศน์โดยรอบ 11.เขื่อนกันคลื่น บริเวณป่าสน 12.โครงการรถพยาบาลเคลื่อนที่ 13.จัดสรรที่ดินว่างเปล่าของการท่าเรือ ม.9 อ.บางละมุง 14.จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 15.ส่งเสริมวัฒนาและประเพณีท้องถิ่น

โครงการดังกล่าวมีความก้าวหน้าไปมากแล้ว ซึ่งในปีงบประมาณนี้ทางการท่าเรือฯ ได้อนุมัติโครงการไปแล้วหลายโครงการ ซึ่งได้รับงบประมาณในเดือนกันยายนนี้ เช่น ทุนการศึกษาบุตรหลานของประชาชนในชุมชน ซึ่งท่าเรือฯ ได้อนุมัติให้ทุนละ 30,000 ต่อเทอมต่อคน จำนวน 15 ทุน

นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากโรงต้มปลาในชุมชนแหลมฉบัง การ โครงการพัฒนาภาษอังกฤษสำหรับเยาวชน โดยจ้างอาจารย์ที่เป็นชาวต่างชาติมาทำการสอนภาษา โครงการตรวจสุขภาพฟัน โครงการพัฒนาทักษะอาชีพที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือซึ่งฝึกเสร็จสามารถเข้าทำงานกับสถานประกอบการในท่าเรือได้ทันที

ส่วนโครงการสร้างสวนสุขภาพ 50 ไร่นั้น ซึ่งจากเดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ทางท่าเรือฯ ได้เตรียมไว้สำหรับรองรับชาวบ้านแหลมฉบังที่ถูกเวนคืนแต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีชาวบ้านย้ายเข้ามา ทำในพื้นที่ดังกล่าวรกร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ ชาวบ้านแหลมฉบังจึงมีความเห็นว่าจะให้จัดทำเป็นสวนสุขภาพเพื่อประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก

นายสนธิ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือเฟส 3 นั้น ในระยะเวลาภายใน 5 ปีนี้ ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน เนื่องจากภายใน 5 ปีนี้ กระทรวงคมนาคมไม่ได้มีการอนุมัติเงินประมาณการก่อสร้างใดๆ ลงมาที่ท่าเรือแหลมฉบังเลย ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าในช่วงนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น