นายช่าง อบจ.ชลบุรี มอบตัวสู้คดีหลังยิงหนุ่มเลขาฯ หน้าห้องปลัด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายช่างเครื่องจักรกล อบจ.ชลบุรี นำปืน.38 ที่ก่อเหตุ พร้อมรถยนต์ที่หลบหนีเข้ามอบตัวต่อรองผู้การชลบุรี หลังบุกยิงเลขาฯ หน้าห้องปลัด อบจ.ชลบุรี สารภาพแค้นผู้ตายเป็นชู้กับภรรยา ขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวแต่ไม่ฟัง ประกาศขู่มึงกับกูต้องตายกันไปข้างหนึ่ง เลยชิงก่อนได้เปรียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ค.) หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน .38 มม. เดินประกบเข้าไปจ่อยิง นายไทยทูน สุนทรวงษ์ หนุ่มเลขานุการหน้าห้อง นายชุมพล ชิตวิเศษ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี (อบจ.ชลบุรี) จำนวน 4 นัด เสียชีวิตข้างรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียม กม 5856 ชลบุรี บริเวณทางขึ้นสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และภาพจากกล้องวงจรปิด และผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า มือปืนที่ก่อเหตุคือ นายณัฐพล ยิ้มภักดี อายุ 50 ปี เป็นพนักงานกองช่าง ของ อบจ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมา หลังเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง นายณัฐพล หรือช่างณัฐ ได้นำอาวุธปืนขนาด .38 มม. และเครื่องกระสุนที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมรถยนต์มิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กต 3636 ของตนเอง ที่ใช้หลบหนีเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี โดยมี พ.ต.อ.สุวิญาณ ญาณกิตติคุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) และ พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นผู้รับมอบตัว และพยานภาพจากกล้องวงจรปิด จึงดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพร้อมรีบตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชลบุรีทันที

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า แค้นใจที่ภรรยาคือ นางจำเนียร ซึ่งรักกันมา 8 ปี และมีบุตรด้วยกัน 2 คน ไปคบหากับผู้ตาย ซึ่งได้ตรวจจับจากสัญญาณติดตามรถยนต์จากนักสืบเอกชนพบว่า ประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตายได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของตน จึงเกิดเป็นรัก 3 เส้า และได้เคยขอร้องถึงขนาดทำหนังสือให้เลิกยุ่งเกี่ยว แต่ก็ไม่มีทีท่าจะเลิกรา แถมภรรยาพยายามขอเลิก และตีตัวออกห่าง แต่ก็ได้พูดคุยว่าให้ภรรยานึกถึงลูก ก็เลยยังไม่เลิกกันเด็ดขาด

สุดท้ายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เจอกับผู้ตายที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ตนเองจึงเดินเข้าไปพูดคุยขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของตนอีกครั้ง แต่เกิดการมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้นถึงขนาดตัดเป็นตัดตาย ขู่ประกาศว่าไม่มึงก็กูต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

วันนี้ หลังจากไปส่งลูก 2 คน ที่โรงเรียน จะกลับเข้ามาทำงานเห็นจังหวะดี จึงเข้าไปจ่อยิงก่อนเพราะถือว่าได้เปรียบ และถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ พอยิงเสร็จตั้งใจจะยิงตัวตาย แต่นึกถึงลูกจึงตัดสินใจยอมรับกรรมเข้ามอบตัวในที่สุด