ชาวนาพิจิตรตั้งรางวัลนำจับ-หัวโจกโกงจำนำข้าว

รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวนาที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มเจ้าของโรงสี แอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด และพวก ในข้อหาฉ้อโกง หลังก่อเหตุยักยอกข้าวที่ชาวนาขนเข้าร่วมโครงการรับจำนำตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งข้าว อ.ต.ก.รวมแล้วไม่น้อยกว่า 12,000 ตัน ว่า

ขณะที่กลุ่มชาวนาที่ตกเป็นเหยื่อการทุจริตจำนำข้าวครั้งนี้ ที่มีกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 130 ล้านบาท ได้ร่วมกับ นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร ประกาศตั้งรางวัลนำจับผู้ที่ถูกออกหมายจับในคดีนี้รายละ 20,000 บาท โดยได้ทำเป็นใบปลิวแจกจ่ายไปทั่ว เพื่อให้ช่วยกันตามล่าตัวขบวนการโกงชาวนา และโครงการรับจำนำข้าว

ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงแนวทางในการช่วยเหลือชาวนาที่ถูกโรงสีฉ้อโกง ว่า ขณะนี้ได้ตั้งกองทุนรับบริจาคได้เงินมาแล้ว 2.6 ล้านบาทเศษ และยังมีผู้ที่แจ้งความประสงค์รอที่จะโอนเงินเข้าบัญชีอีกกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งสิ้นเดือนนี้ก็จะได้ข้อสรุปว่าจะบริหารจัดการอย่างไร

นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทุจริตซ้ำรอย ยังได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร กวดขันกำกับดูแลห้ามรถบรรทุกขนย้ายข้าวทุกชนิดเข้า-ออก ภายในจังหวัดพิจิตร ตลอด 24 ชั่วโมง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากคณะอนุกรรมการฯ ข้าว จังหวัดพิจิตร

ทั้งนี้ ได้มีการตั้งจุดตรวจพื้นที่สีแดงทั่วทั้ง 12 อำเภอทุกเส้นทาง เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้ท่าข้าว สถาบันเกษตรกร และโรงสีนำข้าวชาวนามาสวมสิทธิ ตลอดจนป้องกันไม่ให้โรงสีในโครงการฯ ขนข้าวที่มีคุณภาพดีออกขายแล้วเคลื่อนย้ายข้าวคุณภาพต่ำจากที่อื่นๆ มาสวมในสต๊อกแทน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบการฝ่าฝืนโดยไม่มีใบแสดงอนุญาต ใบกำกับรายการ การเคลื่อนย้ายถือว่าส่อเจตนาทุจริตจำนำข้าวจะดำเนินคดีอย่างจริงจัง

สำหรับชาวนาที่เก็บเกี่ยวไปจำนำ หรือไปขายต้องมีใบรับรองเป็นเกษตรกร หรือใบ 1/3 ติดไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นสุดโครงการรับจำนำ ในวันที่ 15 กันยายน 2556

ขณะที่ พ.ต.อ. ธวัธชัย มวญนรา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ระบุว่า ชุดเฉพาะกิจติดตามการทุจริตรับจำนำข้าวของจังหวัดพิจิตร ยังคงตรวจพบว่า ยังมีท่าข้าว และสถาบันเกษตรกรบางแห่งมีการลักลอบรวบรวมข้าวเปลือกจากชาวนาส่งให้โรงสีใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล และมีโรงสีบางแห่งที่สต๊อกข้าวขาด และมีการโยกย้ายข้าวจากที่อื่นๆ มาสวมแทน ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ถือว่าผิดระเบียบการรับจำนำของคณะกรรมการ กขช.