“ซีพี” เตรียมตั้งโรงงานผลิตยางแท่งขนาดใหญ่ใน อ.วังสะพุง ขณะที่ชาวบ้านค้านหวั่นผลกระทบสิ่งแวดล้อม

เลย - ซีพีเตรียมตั้งโรงงานผลิตยางแท่งที่ ต.ปากปวน อ.วังสะพุง ชี้เป็นโรงงานต้นแบบแห่งแรกในไทย เป็นระบบปิด ไม่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต กำลังผลิตกว่า 6 หมื่นตัน/ปี รองรับผลผลิตยางภาคเหนือ-อีสาน ขณะชาวบ้านบางส่วนคัดค้าน หวั่นมลพิษ เสนอศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมรอบด้าน

วันนี้ (26 ก.ค.) ที่วิทยาลัยการอาชีพวังสะพุง ต.ปากปวน อ.วังสะพุง จ.เลย บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์การเกษตร จำกัด เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางแท่ง ต.ปากปวน มีผู้นำชุมชน ประชาชนชาวปากปวน และตำบลใกล้เคียงเข้าร่วมฟังประมาณ 100 คน

นายวารินทร์ งานทวีเลิศสิน พนักงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาง บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์การเกษตร จำกัด กล่าวว่า โครงการตั้งอยู่ริมถนนปากปวน-ห้วยผุก บ้านโนนสว่าง หมู่ 3 ต.ปากปวน พื้นที่ 134 ไร่ เครื่องจักร 4,500 แรงม้า กำลังการผลิต 10 ตันต่อวัน หรือ 64,800 ตันต่อปี

ภายในพื้นที่โครงการประกอบด้วย อาคารผลิต แท่นเครื่องชั่ง, อาคารเก็บวัตถุดิบ สำนักงาน 2 ชั้น บ้านพักพนักงาน 1 ชั้น อาคารซ่อมบำรุง 1 หลัง ระบบบำบัดน้ำเสียเนื้อที่ 20 ไร่ และระบบบำบัดกลิ่น โดยใช้ระบบเวทสครับเบอร์ และโอโซนช่วยลดกลิ่นในอาคารวัตถุดิบ การก่อสร้างจะใช้ระยะเวลา 21 เดือน

นายวารินทร์ระบุว่า หากโครงการแล้วเสร็จจะยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกรในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลดการว่างงานและการอพยพแรงงานเข้าสู่สังคมเมือง ซึ่งทางบริษัทจะรับพนักงานที่เป็นคนในพื้นที่ประมาณร้อยละ 80

ขณะเดียวกันจะเป็นแหล่งวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรมแปรรูปเบื้องต้น และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ตลอดจนเป็นการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ เกษตรกรไม่ต้องขนส่งไปขายไกลซึ่งจะช่วยลดต้นทุนลงได้มาก นอกจากนี้ทางบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่ออกไปส่งเสริมวิธีการดูแลรักษาต้นยาง การกรีดยาง และให้ความรู้ด้านวิชาการแก่เกษตรกรด้วย

ส่วนกรณีที่ประชาชนเป็นห่วงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ทางบริษัทคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะการก่อสร้างโรงงานแห่งนี้ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่จะเป็นโรงงานต้นแบบตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด การผลิตเป็นระบบปิด ไม่มีการปล่อยน้ำเสียออกด้านนอกโรงงาน มีการหมุนเวียนนำน้ำออกมาใช้ และจะไม่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน ต.ปากปวน นำโดยนายกลั่น ภักดิ์มี ผู้ใหญ่บ้านโนนสว่าง หมู่ 3 ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานเพียง 2 กิโลเมตร ได้เข้ายื่นหนังสือคัดค้านต่อผู้แทนบริษัท

นายกลั่นกล่าวว่า ชาวบ้านโนนสว่างได้รับแจ้งจากทางอำเภอว่าบริษัจะมาตั้งโรงงาน แต่ชาวบ้านกลับไม่ทราบข้อมูลตรงจากทางบริษัทเพราะไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาชี้แจง เพิ่งจะทราบเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาก็เป็นช่วงเวลาที่ใกล้สิ้นสุดระยะเวลายื่นคำร้องคัดค้านแล้ว ซึ่งกระชั้นชิดมาก แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจของทางบริษัทที่จะให้ข้อมูลผลดี ผลเสีย หรือรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสีย

ดังนั้น ชาวบ้านจึงเข้าชื่อกัน 58 คน ยื่นหนังสือคัดค้านไปที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลย เพราะเกรงว่าโรงงานนี้จะสร้างความเดือดร้อน มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม กลิ่นเหม็น ฝุ่นควัน เสียงดัง น้ำยางหกบนพื้นถนนระหว่างการขนส่ง

อีกทั้งพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านรอบโรงงานอาจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากน้ำเสียและอากาศเสีย จึงยื่นหนังสือคัดค้านไว้ก่อนจนกว่าจะมีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน และโปร่งใส

ขณะที่ผู้แทนของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลยชี้แจงว่า กำลังการผลิตและขนาดของโรงงานมีขนาดใหญ่เกินกว่าหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานระดับจังหวัด จะตัดสินใจอย่างไรต้องขึ้นกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องร้องคัดค้านของชาวบ้านเสนอไปให้พิจารณาด้วย