ตราด - ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าชายแดนไทย-กัมพูชา หยุดขนส่งสินค้าหลังเกิดพายุรุนแรง เผยสินค้าเปียกน้ำ ขณะนายอำเภอคลองใหญ่เตือนผู้ประกอบการสินค้า เรือประมง ห้ามออกจากฝั่งหวั่นเรืออับปาง
หลังจากเกิดฝนตกตกหนักติดต่อกันหลายวัน และมีน้ำท่วมที่อำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด รวมทั้งมีน้ำท่วมถนนสุขุมวิทช่วงไปท่าเรือขนส่งสินค้านั้น
วันนี้ (22 ก.ค.) นายหมับ ทา ผู้ประกอบการสินค้าส่งออกท่าเรือชลาลัย อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ไปยังท่าเรือ อ.นาเกลือ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ระยะนี้มีฝนตกหนักทั้งใน อ.คลองใหญ่ และในพื้นที่ในทะเล และมีความรุนแรงเนื่องจากมีพายุจากอ่าวไทย ทำให้การขนส่งสินค้าประสบปัญหาในหลายด้าน กล่าวคือ ฝนที่ตกลงมาจะทำให้สินค้าทีเปียกน้ำได้รับความเสียหาย ขณะที่การขนส่งล่าช้า และระหว่างการเดินทางไปสินค้าบางชนิดต้องระวังในเรื่องความเสียหาย ปัญหาสำคัญก็คือ การที่ฝนตกหนักทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ทันตามที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้สั่งสินค้ากัมพูชาต้องการให้ทันตามกำหนดเวลา และสินค้าบางชนิดอาจได้รับความเสียหายจากการกองอยู่หลายวัน
“ระยะนี้ อ.คลองใหญ่ มีฝนตกทุกวันทำให้เสียเวลาในการขนส่งสินค้าต้องรอเวลาในการเดินทางหากยังตกอยู่เช่นนี้อาจได้รับความเสียมากยิ่งขึ้น โดยทุกวันจะมีสินค้าจากฝั่งไทยส่งไปยังกัมพูชามีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท/วัน”
ด้านนายธีรพล ศิรินานุวัฒน์ นายอำเภอคลองใหญ่ กล่าวว่า ทางอำเภอได้แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการเดินเรือโดยเฉพาะเรือขนส่งสินค้าขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ หากจะเดินทางออกทะเลควรระมัดระวังในเรื่องคลื่นลมแรงที่เกิดขึ้นในระยะนี้ อาจทำให้เรืออับปาง และต้องติดตามคำพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาตลอดเวลา หากไม่ปลอดภัยก็ไม่ความเดินทางออกไป ส่วนปัญหาเรื่องน้ำท่วมได้สั่งการให้ทางท้องถิ่นได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ว