เชียงราย - พระ ว.วชิรเมธี นำคำสอนพระพุทธเจ้าสอนคนเลิกเหล้า ย้ำสุรามีพิษ 12 ประการ 6 โทษใหญ่ บอกวันนี้ไม่มี “พระอินทร์” มาตักเตือนผู้คนเหมือนเรื่องเล่าในอดีต แต่กลับมีโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เห็นทั่วบ้านทั่วเมืองจนน่าห่วง
องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย นำโดยพุทธสมาคมแห่ง จ.เชียงราย สภาวัฒนธรรมจังหวัด ชมรมน้อยหนาน สำนักงานสาธารณสุข ฯลฯ ได้จัดงาน “รวมพลคนเจียงฮาย ปลอดภัยจากเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด” เนื่องในโอกาสก่อนถึงวันเทศกาลเข้าพรรษา ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.นี้เป็นเวลา 3 เดือน โดยนิมนต์ท่าน ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดังบรรยายธรรมเรื่องโทษภัยเหล้า บุรี่ ยาเสพติด ให้แก่ประชาชน และนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม
ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่า ปัญหาเรื่องสุรามีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล เพราะในประเทศอินเดียก็มีเทศกาลดื่มสุราเช่นกัน เมื่อถึงช่วงเทศกาลมีหญิงกลุ่มใหญ่กว่า 500 คนอยากดื่มสุรา แต่ต้องออกไปดื่มที่นอกบ้าน เมื่อพบเห็นนางวิสาขา กำลังจะไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจึงทำทีเป็นเดินตามไป
แต่ระหว่างทางก็ดื่มสุรากันมาตลอดทางกระทั่งถึงสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ก็เมามายไม่ได้สติ มีกิริยาที่น่ารังเกียจ พระพุทธองค์จึงทำให้ทั้งหมดสร่างเมา แล้วสั่งสอนว่า สุรานั้นทำให้คนกลายเป็นสัตว์เดรัจฉานได้ จากนั้นได้แสดงธรรมเทศนาถึงที่มาของสุราว่า เกิดขึ้นที่เมืองพาราณสี เมื่อมีนายพรานชื่อ “สุระ” เข้าไปหาของป่าแล้วพบช่องไม้มีน้ำตกลงไปแล้วมีพืช และสัตว์ตกลงไปหมักหมม
เมื่อถูกแสงแดดกลั่นเป็นสุราหยดลงมาอีก นกไปดื่มกินก็บินไม่ได้ นายพรานสุระ จึงจับนกมากิน และดื่มน้ำที่อยู่ในกระบอกไม้ที่มีน้ำหยดลงไปจนเมามาย และรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขเต็มประดา จึงไปชวนฤษีรูปหนึ่งในป่าไปดื่มด้วยจนทั้งคู่เมามายไปด้วยกัน
ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวอีกว่า จากนั้นทั้งคู่ได้ชักชวนชาวบ้านไปดื่ม และนำไปถวายกษัตริย์กรุงพาราณสี เมื่อกษัตริย์ดื่มก็ให้ราษฎรทั้งปวงดื่ม และทำน้ำแบบที่พบในกระบอกไม้ดังกล่าวด้วย จึงเมามายกันทั้งเมือง และให้ชื่อของน้ำดังกล่าวว่า “สุรา” ตามชื่อของนายพรานสุระ
สำหรับเมืองนี้แม้ว่าข้าศึกศัตรูจะไม่รุกราน แต่เมืองพาราณสีก็ล่มจมในที่สุด เพราะผู้คนมีพฤติกรรมที่เลวร้าย จนเมืองล่มสลายโดยอัตโนมัติ
หลังจากนั้น นายพรานสุระ และพระฤษีที่เป็นต้นเหตุนำสุราไปเผยแพร่ยังเมืองสาวัตถีต่อ ซึ่งเมืองแห่งนี้มีกษัตริย์ชื่อสรรพสามิต โดยทั้ง 2 ได้ขอทำสัมปทานสุราในเมือง จนทำให้ผู้คนเมามายกันอีก แต่พบว่าในโรงเหล้ามีหนูมาก ทั้งคู่จึงนำแมวไปเลี้ยงเพื่อจับหนู ปรากฎว่า รุ่งเช้าพบว่าแมวต่างหลับนอนกันหมดไม่ยอมจับหนูเพราะได้ดื่มสุราไป
จึงมีคนทูลเกล้าต่อพระเจ้าสรรพสามิตว่า น้ำดังกล่าวไม่ใช่น้ำวิเศษ แต่เป็นยาพิษ ทำให้พระเจ้าสรรพสามิต สั่งให้ประหารนายพรานสุระ และฤษีตนนั้นเสีย แต่แม้จะถูกลากไปประหาร ทั้งคู่ก็ติดอกติดใจน้ำสุราโดยดื่มไปตลอดทางจนถึงถูกประหารชีวิต
ต่อมา พระเจ้าสรรพสามิต ต้องการทดลองว่า น้ำสุรามีพิษจริงหรือไม่ แต่พระอินทร์ ได้เสด็จลงมาโปรดพร้อมบอกว่า ไม่ใช่น้ำวิเศษแต่มีพิษ 12 ประการคือ ดื่มแล้วทำให้เดินเซ บริโภคอาหารที่ไม่ควรบริโภคได้ ดื่มแล้วฟุ้งซ่าน ดื่มแล้วไม่ละอายแก่ใจ ดื่มแล้วนอนซบเซา ดื่มแล้วพูดคำที่ไม่ควรพูดและมีอาการวิกลจริตลำพองใจ ดื่มแล้วมีมานะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ดื่มแล้วมรดกเสียหาย
ดื่มแล้วกลับจากคนดีเป็นคนเลว พ่อยังมีเรื่องผิดกับลูกสาวตัวเองได้ ดื่มแล้วผู้ทรงศีลด่าพ่อด่าแม่ได้และมีพฤติกรรมเสียหายได้สารพัด ดื่มแล้วขาดความเมตตาสามารถทำร้ายสมณะชีพราห์มได้ ดื่มแล้วขาดหิริโอตตัปปะคนใจเย็นกลายเป็นคนใจร้อน คนทำงานเร็วกลายเป็นเชื่องซึม และดื่มแล้วทำให้เสียหายทุกอย่างแม้แต่เทวดาที่ตกจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กลาย ไปเป็นอสูรใต้สมุทรก็เพราะดื่มสุรา จนพระเจ้าสรรพสามิต รู้ถึงพิษภัยแ ละไม่ส่งเสริมอีกเลย
สุดท้าย พระพุทธองค์เทศนาสรุปในตอนท้ายว่า สรุปแล้วสุรามีโทษ 6 ประการคือ เสื่อมทรัพย์ บั่นทอนสติปัญญา หมดความน่าเคารพนับถือ สมาคมคำพูดคนก็ไม่เชื่อถือ ก่อการทะเลาะวิวาท และร่างกายเป็นรังแห่งโรค
“ปัจจุบัน เราไม่มีพระอินทร์ลงมาเตือนอีกแล้ว แต่กลับมีการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เห็นกันอยู่ทั่วไป จึงน่าเป็นห่วงยิ่ง และควรอย่างยิ่งที่จะได้ถือเอาวันเข้าพรรษานี้ได้เลิกดื่มสุรา เลิกเปลี่ยนจากความเป็นคนที่ประเสริฐกลายเป็นสัตว์เดรัจฉานกระทำการต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นเสีย โดยเข้าหาพระธรรม ถือศีลห้า ใครทำก็จะได้โชคโดยทันที เพราะผลเกิดกับตัวเราเอง” ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าว