ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ในเชียงใหม่ระดมสมองหารือแก้ปัญหาร้านคาราโอเกะ หลังเรื่องร้องเรียนพุ่ง ทั้งเก็บเงินแพง-ฉ้อโกง-ข่มขู่ ชี้เรื่องราคา พ.ร.บ.สถานบริการฯ ไม่ได้กำหนดเปิดช่องผู้ประกอบการเก็บตามใจ เห็นพ้องทุกหน่วยงานเร่งดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหากพบละเมิดให้ดำเนินการทันที พร้อมเตรียมเรียกผู้ประกอบการคาราโอเกะ 7 แห่งที่มีปัญหามาพูดคุยขอความร่วมมือ
หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ (18 ก.ค.) โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องที่จะไปพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อนำมาบังคับใช้ในการควบคุมการให้บริการของสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะ รวมทั้งเตรียมที่จะเชิญผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะที่พบว่ามีปัญหาการร้องเรียนเข้ามาพูดคุยหารือในเร็วๆ นี้
การประชุมดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศูนย์อำนวยความเป็นธรรม ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ มีขึ้นหลังจากหลายหน่วยงานได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการให้บริการของสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่ามีทั้งการร้องเรียนในเรื่องการคิดค่าบริการในอัตราสูงกว่าความเป็นจริงทั้งต่อลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ การฉ้อโกง การข่มขู่กรรโชกผู้ใช้บริการ การเปิดให้บริการที่รบกวนหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ไปจนถึงความไม่เหมาะสมจากการออกมาเรียกแขกบนท้องถนนของพนักงานร้านคาราโอเกะ
โดยในการประชุมซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้หารือถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ากรณีการคิดค่าบริการในอัตราสูงนั้น ตามกฎหมายพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 มิได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับอัตราค่าบริการเอาไว้ เนื่องจากถือเป็นเรื่องระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม กรณีการคิดค่าบริการในอัตราสูงอาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค หรือประมวลกฎหมายอาญาในความผิดฐานฉ้อโกง
ส่วนกรณีการร้องเรียนต่างๆ ที่ผ่านมานั้นได้มีการชี้แจงในที่ประชุมว่า กรณีของสถานบันเทิงคาราโอเกะทั้ง 7 แห่งในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ซึ่งมีปัญหาการร้องเรียน ประกอบด้วยร้านไออิ คาราโอเกะ ร้านไวโอลิน คาราโอเกะ ร้านบันนี่เกิร์ล ร้านพิงค์เลดี้ ร้านคลาสโนว่า คาราโอเกะ ร้านโรสคลับ และร้านคลีโอนั้น มีทั้งเหตุการณ์ที่ผู้ประกอบการเป็นฝ่ายผิดหรือผู้ใช้บริการเป็นฝ่ายผิด และเหตุการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ผิด อีกทั้งยังพบว่าจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวน่าจะมีจำนวนมากกว่าที่มีการร้องเรียน เนื่องจากเชื่อว่าผู้ใช้บริการหลาบรายยินยอมจ่ายค่าใช้บริการหรือไม่ร้องเรียนเนื่องจากอับอายหรือไม่ต้องการให้เรื่องเผยแพร่ออกไป ขณะเดียวกันยังพบว่าสถานบันเทิงคาราโอเกะหลายแห่งที่มีปัญหาการร้องเรียนนั้นมีเจ้าของร่วมกัน แต่อาศัยการหาบุคคลอื่นมาอ้างตัวเป็นเจ้าของกิจการแทน
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการหารือกันถึงการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อกฎหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะเพื่อใช้ในการตรวจสอบการดำเนินการของผู้ประกอบการว่าเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เช่น การตรวจสอบในเรื่องของอาคารสถานที่ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายการต่อเติมและการใช้งานผิดประเภท การไม่มีใบอนุญาตประกอบการสถานบันเทิง รวมทั้งการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการให้บริการที่เป็นธรรม ขณะเดียวกันหลายหน่วยงานได้ให้ข้อมูลว่าการดำเนินการในปัจจุบันค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสถานประกอบการหลายแห่งมีการขอใบอนุญาตและเสียภาษีถูกต้อง หากเข้มงวดมากอาจส่งผลให้สถานประกอบการหลบออกจากระบบซึ่งจะยากต่อการตรวจสอบ อีกทั้งหากจะทำการปราบปรามอย่างเข้มงวดก็จะถูกต่อต้านโดยอ้างถึงเรื่องภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เห็นชอบในการขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ตรวจสอบกฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อกฎหมายที่อาจเกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับสถานบันเทิงคาราโอเกะ พร้อมทั้งขอให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงขอให้แต่ละหน่วยงานสรุปข้อมูลต่างๆ เพื่อนำเสนอเป็นรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบต่อแนวทางที่จะเชิญผู้ประกอบการสถานบันเทิงคาราโอเกะที่มีปัญหาทุกแห่งมาร่วมหารือกับทุกหน่วยงานเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและขอความร่วมมือในการให้บริการให้ถูกต้องเหมาะสมตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง จากข้อมูลของอำเภอเมืองเชียงใหม่ พบว่าในปัจจุบันมีสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะเปิดให้บริการในพื้นที่ประมาณ 300 แห่ง แต่มีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 เพียง 13 แห่ง