ศุลกากรหนองคายคัดแยกไม้พะยูงกับประดู่ของกลาง

หนองคาย - ศุลกากรหนองคาย ป่าไม้หนองคาย-เวียงจันทน์ คัดแยกไม้ประดู่-ไม้พะยูง หลังตรวจยึดไม้ประดู่สำแดงเอกสารเท็จ มีไม้พะยูงปะปนเต็มตู้คอนเทนเนอร์นำเข้าจากลาว ขณะที่เจ้าของไม้ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม ทั้งจากนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าฯ หนองคาย สั่งให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ด่านศุลกากรหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายพงศ์ษา เพ็งหนู หัวหน้าด่านป่าไม้หนองคาย-เวียงจันทน์ นายพิชัย ด้วงแดงโชติ สารวัตรศุลกากร 7 ตัวแทนจากบริษัท ทีอีซี โลจิสติกส์ จำกัด ร่วมกันตรวจสอบไม้ในตู้คอนเทนเนอร์

ซึ่งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2555 ด่านศุลกากร และป่าไม้หนองคาย-เวียงจันทน์ได้ตรวจสอบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้จากประเทศลาวผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพื่อนำไปยังประเทศที่สามผ่านท่าเรือคลองเตย ตามเอกสารที่บริษัท ทีอีซี โลจิสติกส์ จำกัด แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ระบุว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์เป็นสินค้าเฟอร์นิเจอร์กึ่งสำเร็จรูป (ไม้ประดู่) 19,352 ชิ้น ปริมาตร 29.845 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ด่านป่าไม้หนองคาย-เวียงจันทน์ และศุลกากรหนองคายตรวจสอบแล้วพบว่ามีไม้ประดู่เฟอร์นิเจอร์ ไม้ประดู่แปรรูป และไม้แปรรูปชนิดอื่น ซึ่งป่าไม้สงสัยว่าจะเป็นไม้พะยูงแปรรูป และไม่ตรงกับเอกสารที่สำแดง

โดยเป็นไม้ประดู่แปรรูป 7,521 แผ่น ปริมาตร 16.671 ลบ.ม. ไม้พะยูงแปรรูป 8,240 แผ่น ปริมาตร 10.544 ลบ.ม. สิ่งประดิษฐ์จากไม้ชิงชัน 145 ชิ้น สิ่งประดิษฐ์จากไม้ประดู่ 351 ชิ้น และสิ่งประดิษฐ์จากไม้พะยูง 594 ชิ้น

ต่อมาบริษัท จันเลือง วูด โปรเซสซิ่ง แฟคทอรี่ จำกัด (CHANLUENG WOOD PROCESSING FACTORY) ตั้งอยู่ที่ประเทศลาว (NAMCHENG VILLAGE, PHNEHONG DISTRICT, PROVINCE, LAO PRD) ได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือถึงกรมป่าไม้ และกรมศุลกากรให้ตรวจสอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้หารือร่วมกันแล้วเห็นว่า ในส่วนของศุลกากรได้อ้างอิงตามอนุสัญญาบาร์เซโลนาปี 1921 เกี่ยวกับสินค้าผ่านแดน ซึ่งไม่ได้ระบุความผิดเกี่ยวกับป่าไม้ แต่ผู้นำเข้ามีความผิด กรณีสำแดงเอกสารเท็จเพื่อส่งสินค้าผ่านแดนไปยังประเทศที่สาม ได้ดำเนินการปรับจำนวนสินค้าที่เกินจากเอกสารที่สำแดง แล้วคืนไม้ประดู่กึ่งเฟอร์นิเจอร์ให้เจ้าของไป

ส่วนป่าไม้ได้ยึด พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ด้วยการอายัดไม้พะยูงทั้งหมดนำไปเก็บรักษาที่ด่านป่าไม้หนองคาย-เวียงจันทน์ แล้วให้เจ้าของไม้คือ บริษัท จันเลือง วูด โปรเซสซิ่ง แฟคทอรี่ จำกัด ไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 48 ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองปริมาตรเกิน 0.20 ลบ.ม.

และมาตรา 70 ฐานรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่า ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพ.ร.บ.นี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น

ทั้งนี้ ไม้พะยูงที่ตรวจยึดในครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 5,270,000 บาท