สระแก้ว- ผบก.สระแก้ว ยันออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหากุญแจสำคัญคดีอุ้มเสี่ยอ้วน โรงเกลือแล้ว โดยจะทำให้รู้ว่าศพ และรถยนต์กระบะของเสี่ยอ้วนอยู่ที่ไหน และใครเป็นผู้บงการ ย้ำอยู่ที่นาย สุริยะ สินปรุ จะเป็นผู้เปิดปากหากจับกุมตัวได้
วันนี้ (16 ก.ค.) พล.ต.ต.อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เจนเชิง ประทุมสุวรรณ ผกก.สส.สภ.สระแก้ว เพื่อให้จัดชุดสืบสวนของภูธรจังหวัด และ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และสถานีตำรวจข้างเคียง พร้อมเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี นายชัยชนะ หมายงาน หรือเสี่ยอ้วน ผู้กว้างขวางมีธุรกิจหลายอย่างในตลาดโรงเกลือ และเป็นนายหน้าค้าที่ดินตามแนวชายแดนด้าน จ.สระแก้ว ถูกคนร้ายอุ้มหายไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.56 ที่ผ่านมา โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่กระจายกำลังคุมพื้นที่จังหวัด และจังหวัดข้างเคียง ได้ออกทำการสืบสวนเชิงลึกเพื่อหาศพ และรถยนต์ของนายชัยชนะ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อายุ 58 ปี หรือ อดีต พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ ที่ก่อเหตุอุ้มฆ่าตระกูลศรีธณะขัณฑ์ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา โดยนายพันศักดิ์ ยังให้การปฏิเสธ 2.นายกฤษณะ ขัดศิริ หรือไอ้ป๊อด อายุ 34 ปี อดีตเคยติดคุกในคดีฆ่าคนตาย และรู้จักกับนายพันศักดิ์ในคุก เบื้องต้น นายกฤษณะให้การรับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในทีมอุ้มเสี่ยอ้วนจริงโดยมีหน้าที่คนดูต้นทาง และรับงานมาจากนายพันศักดิ์
3.นายน้อย ขยันดี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.2 ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายน้อย ยอมรับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในทีมอุ้มเสี่ยอ้วนจริง โดยมีหน้าที่ขับรถยนต์กระบะของเสี่ยอ้วน หลบหนี แต่ไม่รู้ว่านายพันศักดิ์ เอาตัวเสี่ยอ้วนไปไว้ที่ไหน ซึ่งทั้งนายกฤษณะ และนายน้อย ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนี้มาก
พล.ต.ต.อุฬาร กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งคลี่คลายคดีมาโดยตลอดจนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุได้ จำนวน 3 คน โดยเฉพาะนายน้อย ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนี้มาก ทำให้รู้ว่าคนร้ายที่เหลืออีก 3 คนที่ร่วมทีมอุ้มเสี่ยอ้วน เป็นใครโดยเฉพาะ นายสุริยะ สินปรุ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 81 ม.2 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งจะเป็นกุญแจดอกสำคัญสำหรับการตามหาศพ และรถยนต์ของเสี่ยอ้วน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลตามจับแล้ว
ส่วนคนร้ายอีก 2 คน คือ ไอ้ด้วง กับ ไอ้นะ เป็นผู้ปฏิบัติการอุ้มเสี่ยอ้วน ส่วนศพของเสี่ยอ้วนจะถูกนำไปซ่อนไว้ที่ใดนั้นกุญแจดอกสำคัญคือ ถ้าตามจับตัวคนร้ายคนที่ 4 และ 5 ตามหมายจับจึงจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าศพ และรถยนต์ของเสี่ยอ้วนถูกนำไปซ๋อนไว้ที่ใด ซึ่งขณะนี้ ตร.ภ.ภาค 2 และ ตร.ภ.จว.สระแก้วได้เร่งระดมกำลังปูพรมออกตามจับคนร้ายทั้ง 3 คนแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถตามจับตัวได้อย่างแน่นอน
พล.ต.ต.อุฬาร กล่าวต่อไปว่า สำหรับคดีเสี่ยอ้วน ในขณะนี้มีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่งแล้วหลังจากประมวลผลที่ พ.ต.อ.เจนเชิง ประทุมสุวรรณ ผกก.สส.สภ.สระแก้ว ได้มาสรุปให้ทราบโดยได้ส่งชุดสืบลงพื้นที่ไปตามจุดต้องสงสัยว่าชุดอุ้มเสี่ยอ้วน จะไปกบดานอยู่ และชุดสืบได้แจ้งไปตามเพื่อน และญาติทีมอุ้มเสี่ยอ้วน ว่าขอให้มามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียเพื่อความปลอดภัย ถ้าไม่เช่นนั้นผู้บงการอาจจะสั่งฆ่าตัดตอนได้
วันนี้ (16 ก.ค.) พล.ต.ต.อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เจนเชิง ประทุมสุวรรณ ผกก.สส.สภ.สระแก้ว เพื่อให้จัดชุดสืบสวนของภูธรจังหวัด และ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และสถานีตำรวจข้างเคียง พร้อมเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี นายชัยชนะ หมายงาน หรือเสี่ยอ้วน ผู้กว้างขวางมีธุรกิจหลายอย่างในตลาดโรงเกลือ และเป็นนายหน้าค้าที่ดินตามแนวชายแดนด้าน จ.สระแก้ว ถูกคนร้ายอุ้มหายไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.56 ที่ผ่านมา โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่กระจายกำลังคุมพื้นที่จังหวัด และจังหวัดข้างเคียง ได้ออกทำการสืบสวนเชิงลึกเพื่อหาศพ และรถยนต์ของนายชัยชนะ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อายุ 58 ปี หรือ อดีต พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ ที่ก่อเหตุอุ้มฆ่าตระกูลศรีธณะขัณฑ์ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา โดยนายพันศักดิ์ ยังให้การปฏิเสธ 2.นายกฤษณะ ขัดศิริ หรือไอ้ป๊อด อายุ 34 ปี อดีตเคยติดคุกในคดีฆ่าคนตาย และรู้จักกับนายพันศักดิ์ในคุก เบื้องต้น นายกฤษณะให้การรับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในทีมอุ้มเสี่ยอ้วนจริงโดยมีหน้าที่คนดูต้นทาง และรับงานมาจากนายพันศักดิ์
3.นายน้อย ขยันดี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.2 ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายน้อย ยอมรับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในทีมอุ้มเสี่ยอ้วนจริง โดยมีหน้าที่ขับรถยนต์กระบะของเสี่ยอ้วน หลบหนี แต่ไม่รู้ว่านายพันศักดิ์ เอาตัวเสี่ยอ้วนไปไว้ที่ไหน ซึ่งทั้งนายกฤษณะ และนายน้อย ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนี้มาก
พล.ต.ต.อุฬาร กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งคลี่คลายคดีมาโดยตลอดจนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุได้ จำนวน 3 คน โดยเฉพาะนายน้อย ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนี้มาก ทำให้รู้ว่าคนร้ายที่เหลืออีก 3 คนที่ร่วมทีมอุ้มเสี่ยอ้วน เป็นใครโดยเฉพาะ นายสุริยะ สินปรุ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 81 ม.2 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งจะเป็นกุญแจดอกสำคัญสำหรับการตามหาศพ และรถยนต์ของเสี่ยอ้วน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลตามจับแล้ว
ส่วนคนร้ายอีก 2 คน คือ ไอ้ด้วง กับ ไอ้นะ เป็นผู้ปฏิบัติการอุ้มเสี่ยอ้วน ส่วนศพของเสี่ยอ้วนจะถูกนำไปซ่อนไว้ที่ใดนั้นกุญแจดอกสำคัญคือ ถ้าตามจับตัวคนร้ายคนที่ 4 และ 5 ตามหมายจับจึงจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าศพ และรถยนต์ของเสี่ยอ้วนถูกนำไปซ๋อนไว้ที่ใด ซึ่งขณะนี้ ตร.ภ.ภาค 2 และ ตร.ภ.จว.สระแก้วได้เร่งระดมกำลังปูพรมออกตามจับคนร้ายทั้ง 3 คนแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถตามจับตัวได้อย่างแน่นอน
พล.ต.ต.อุฬาร กล่าวต่อไปว่า สำหรับคดีเสี่ยอ้วน ในขณะนี้มีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่งแล้วหลังจากประมวลผลที่ พ.ต.อ.เจนเชิง ประทุมสุวรรณ ผกก.สส.สภ.สระแก้ว ได้มาสรุปให้ทราบโดยได้ส่งชุดสืบลงพื้นที่ไปตามจุดต้องสงสัยว่าชุดอุ้มเสี่ยอ้วน จะไปกบดานอยู่ และชุดสืบได้แจ้งไปตามเพื่อน และญาติทีมอุ้มเสี่ยอ้วน ว่าขอให้มามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียเพื่อความปลอดภัย ถ้าไม่เช่นนั้นผู้บงการอาจจะสั่งฆ่าตัดตอนได้