สุโขทัย - โฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.งบฯ 57 ยกคณะลุยตรวจ 2 โรงสีสุโขทัยต้องสงสัยติดแบล็กลิสต์ค้างส่งข้าว อคส. แต่เปิดรับจำนำได้ เจอเถ้าแก่ขวางห้ามเข้า บอกคนอื่นตรวจได้ ยกเว้น “วัชระ” ด้านผู้ว่าฯ การันตีซ้ำ จำนำข้าวสุโขทัยไร้ทุจริต ด้าน ส.ส.ปชป.โวยเจอใบปลิวถล่มถึงบ้านเกิด
นายวัชระ เพชรทอง โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของโรงสีโชคชัยธัญญกิจ และโรงสีบัวทองธัญญกิจ จ.สุโขทัย ซึ่งถูกระบุว่ามีสถานะติดแบล็กลิสต์ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เพราะมีภาระส่งข้าวสาร 2 โครงการ และปัจจุบันยังไม่ส่งมอบข้าวให้รัฐบาล โดยมีนางสุมิตรา ศรีสมบัติ ผวจ.สุโขทัย พร้อมด้วยนายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รอง ผวจ. และ พล.ต.ต.รังสรรค์ คชไกร ผบก.ภ.จว.สุโขทัย นำคณะตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าของโรงสีทั้ง 2 แห่งมาชี้แจงให้ข้อมูลที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอกงไกรลาศ จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 56 ที่ผ่านมา
นายวัชระกล่าวว่า การมาตรวจสอบครั้งนี้ต้องการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ อยากทราบข้อเท็จจริงว่าโรงสีทั้งสองแห่งนี้ติดแบล็กลิสต์ของ อคส.จริงหรือไม่ และในโรงสียังมีข้าวที่มีภาระต้องส่งมอบให้รัฐบาลอยู่จริงหรือเปล่า เพราะจากบันทึกการประชุมของ จ.สุโขทัย ครั้งที่ 5/2554 ระบุชัดเจนว่า โรงสีทั้งสองแห่งนี้ติดแบล็กลิสต์ของ อคส. แต่มีการผ่อนผันให้เข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งนายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รอง ผวจ.สุโขทัย ที่เป็นประธานการประชุมครั้งนั้น และมาประชุมคราวนี้ด้วยก็ได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามเอกสารดังกล่าว
ด้านนางลำดวน ประสงค์สุขสันต์ เจ้าของโรงสีโชคชัยธัญญกิจ และนายจักรพันธ์ รอดพุ่ม เจ้าของโรงสีบัวทองธัญญกิจ ได้กล่าวชี้แจงพร้อมยืนยันว่าโรงสีของพวกตนไม่ได้ติดแบล็กลิสต์อย่างที่ถูกกล่าวหา อคส.ก็ยืนยันแล้ว ข้าวสารก็ได้มีการส่งมอบไปแล้ว สามารถตรวจสอบเอกสารจากหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ ส่วนข้าวเปลือกในปี 50/51 ก็ยังคงอยู่ในสต๊อกโรงสี ตรวจสอบได้เช่นกัน
“เรารู้สึกเสียใจและน้อยใจที่ถูกกล่าวหาในสภาฯ แต่ฝ่ายเดียว มาวันนี้จึงต้องปิดโรงสีไม่ให้เข้าตรวจเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม สื่อตีข่าวออกไป ชื่อเสียงโรงสีเสียหายหมดใครจะช่วยได้ แต่ถ้าต้องการจะเข้าตรวจสอบจริงๆ ใครจะมาตรวจก็ได้ทั้งนั้นเรายินดี ยกเว้นท่านวัชระคนเดียวที่เราไม่อนุญาตให้เข้าโรงสี” เจ้าของโรงสีโชคชัยธัญญกิจกล่าว
นางลำดวนบอกอีกว่า ขั้นตอนการเข้าตรวจสอบต้องทำหนังสือแจ้งไปทาง อคส.ก่อน แล้วมาถึงจังหวัด อำเภอ ไม่ใช่จู่ๆ ก็มาเพราะไม่รู้มาดีหรือมาร้าย แล้วทำไมก่อนที่จะอภิปรายในสภาฯ ไม่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่เกิดความเสียหายแก่โรงสีทั้งสองแห่งนี้
ขณะที่นางสุมิตรา ศรีสมบัติ ผวจ.สุโขทัย ได้กล่าวชี้แจงในที่ประชุมว่า ตนได้อ่านบันทึกการประชุมครั้งที่ 5/2554 แล้ว ทาง อคส.ได้ส่งหนังสือถึงจังหวัดว่ามีรายชื่อติดแบล็กลิสต์ทั้งหมด 77 แห่ง แต่วันนี้ได้ตรวจสอบอีกครั้งพบเหลือติดแบล็กลิสต์แค่ 55 แห่ง โดยไม่มีชื่อของโรงสีโชคชัยธัญญกิจ และโรงสีบัวทองธัญญกิจ ติดแบล็กลิสต์ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ส่วนในรายงานการประชุมที่ระบุว่า เมื่อการค้าภายในแจ้งว่ามีโรงสีที่ติดแบล็กลิสต์อยู่ 77 แห่ง คณะกรรมการจังหวัดเลยคิดว่ามีอยู่ 2 โรงสีที่ยังส่งข้าวไม่ครบตามเงื่อนไข ซึ่งในการส่งข้าวไม่ครบตามเงื่อนไขนั้นคงไม่ใช่ความหมายของแบล็กลิสต์จริงๆ ที่ส่วนกลางหรือ อคส.ได้พูด แต่คณะกรรมการจังหวัดในเวลานั้นคงเข้าใจว่านี่แหละคือ แบล็กลิสต์ จึงเอารายชื่อทั้งสองโรงสีนี้เข้าวาระ ทั้งที่มีการส่งข้าวครบถ้วนแล้วก่อนมีการประชุมด้วย
เมื่อทั้งสองโรงสีส่งข้าวครบ เขาก็สมัครเข้าร่วมโครงการ เพราะเห็นว่าชาวนาในพื้นที่เดือดร้อน ถ้าไม่เปิดชาวนาก็ไม่รู้จะเอาข้าวไปจำนำที่ไหน และในการตีความคำว่า แบล็กลิสต์ ที่ต่างกันก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
“ขอยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวที่ จ.สุโขทัย สุจริตทุกขั้นตอน สามารถตรวจสอบได้” ผู้ว่าฯ สุโขทัยกล่าวในที่ประชุม
ด้านโฆษกคณะกรรมาธิการกล่าวยืนยันว่า การตรวจสอบครั้งนี้ได้ยึดถือเอกสารทางราชการเป็นหลัก และพร้อมรับผิดชอบทุกคำพูดในสภาฯ ส่วนการอภิปรายนั้นไม่ใช่ด้วยความมันปาก แต่ด้วยเหตุ ด้วยผล ไม่มีเจตนาทำให้ใครเสียหาย แต่ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเท่านั้น หากไม่พบความผิดตนก็จะไปพูดแก้ไขให้ในสภาฯ ต่อไป
“วันนี้โครงการรับจำนำข้าวทำชาติเจ๊งไปแล้ว 230,000 ล้านบาท ผมเป็นผู้แทนราษฎรเมื่อได้รับข้อมูลจากข้าราชการที่เขาหวังดีก็ต้องทำหน้าที่มาตรวจสอบเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและชาวนา ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องแบล็กลิสต์นั้นยุติแล้ว เพราะวันนี้รองผู้ว่าฯ สมิทธิ์ยอมรับในบันทึกการประชุมของจังหวัด ส่วนเรื่องข้าวเปลือกจะมีอยู่จริงในสต๊อกหรือไม่ก็ต้องไปดู แต่เมื่อทางโรงสีไม่อนุญาตก็ไม่เป็นไร ถือเป็นสิทธิที่ทำได้”
อย่างไรก็ตาม จะมีการเชิญนายวีระชัย ภู่เพียงใจ อดีตปลัดจังหวัดสุโขทัย และผู้เกี่ยวข้องในการประชุมของ จ.สุโขทัย ครั้งที่ 5/2554 ไปให้ปากคำที่กรุงเทพฯ พร้อมจะขอเอกสารหลักฐานการส่งมอบข้าวของโรงสีทั้งสองแห่งนี้จากหน่วยงานเกี่ยวข้องมายืนยันด้วยเพื่อทำให้ความจริงกระจ่าง
ด้านนายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินทางมาร่วมรับฟังในที่ประชุมครั้งนี้ด้วย ได้แจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยกรณีมีกลุ่มคนทำเอกสารใบปลิวให้ร้ายตน และกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านว่าขัดขวางโครงการรับจำนำข้าวจนทำให้ชาวนาเดือดร้อน แล้วนำไปโปรยทั่วตลาดสุโขทัย และที่ ต.เมืองเก่า บ้านเกิดของตนอีกด้วย จึงขอให้ผู้ว่าฯ ช่วยตรวจสอบ
