สั่งย้าย จนท.ที่ดินกระนวนปลอมโฉนดกู้เงินนายทุน

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ที่ดินปลอมโฉนดนำไปจำนองกับนายทุน สร้างความเสียหายกว่าร้อยล้านบาทตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (11 ก.ค.) นายเกรียงไกร จันทร์สนิท เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น สาขากระนวน เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนในการกระทำของพนักงานที่ดิน คือ นางกรรณิการ์ แสนเมือง เจ้าพนักงานชำนาญงาน ที่ทำการปลอมแปลงโฉนด ปลอมลายเซ็นพนักงาน ออกโฉนดให้ตนเอง สร้างความเสื่อมเสียให้แก่กรมที่ดิน

ในการตรวจสอบ ขณะนี้ได้มีชาวบ้านกว่า 200 คนเข้ามายื่นความจำนงให้ตรวจสอบโฉนดของตนเอง แต่เบื้องต้นพบว่ามีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงจำนวน 72 ราย

ขณะเดียวกัน นายเกรียงไกรกล่าวอีกว่าต้องการให้ผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นที่ปล่อยเงินกู้ให้นางกรรณิการ์ ให้รีบเข้ามาแจ้งให้ทางที่ดินได้รับทราบเพื่อที่จะได้รวบรวมข้อมูลนำเสนอทางกรมที่ดิน และเพื่อทราบความเสียหายของการกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้

สำหรับนางกรรณิการ์ แสนเมือง ได้มีคำสั่งจากกรมที่ดินให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในกรมที่ดินตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 56 แต่เนื่องจากนางกรรณิการ์ได้ลาพักร้อน ซึ่งจะครบกำหนดในวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 56 แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งทางโทรศัพท์ และบ้านพัก ซึ่งหลังจากครบกำหนดการลาพักผ่อนถ้าไม่มารายงานตัวภายใน 15 วันทำการ ถือว่าพ้นสภาพการเป็นข้าราชการ

ทั้งนี้ เอกสารที่มีการปลอมชื่อที่อยู่ซึ่งไม่ตรงกับต้นฉบับ จากการตรวจสอบพบว่าโฉนดหมายเลข 34305 เจ้าของคือ นางอุบลวรรณ รักษาเคน อยู่เลขที่ 51 หมู่ 11 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น มีเนื้อที่ 1 งาน 40 ตารางวา ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น นางกรรณิการ์ แสนเมือง เลขที่ 239 หมู่ 1 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และได้ถูกนำไปจำนองกับนายทุนในราคา 60,000 บาท ซึ่งเข้าข่ายการปลอมแปลงเอกสาร ส่วนผู้เสียหายที่รับจำนองที่ดินจะต้องเข้ามาแสดงตน มิฉะนั้นจะถือว่าอยู่ร่วมขบวนการด้วย

ขณะเดียวกัน นางสาวปุณยนุช เรืองเชิงชุม นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ ประธานกรรมการคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานพบว่านางกรรณิการ์มีความผิดตามหนังสือรายงาน จะจริงหรือไม่จะต้องเข้ามาทำการตรวจสอบ

เฉพาะเรื่องของการไม่ส่งเงินค่าธรรมเนียมให้หลวงก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ยิ่งขณะนี้ยังมีเรื่องการปลอมแปลงเอกสารโฉนดนำไปจำนองก็จะต้องสอบเพิ่มเติมอีก ซึ่งการสอบข้อเท็จจริงมีกำหนดภายใน 30 วัน จากนั้นก็ส่งผลการสอบสวนไปยังกรมที่ดินเพื่อดำเนินการต่อไป